บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า วันนี้ นายกสมาคมอาคารชุดจะเข้าพบกับ ธปท.เพื่อเจรจาเกี่ยวกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่จะปรับสัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักทรัพย์ค้ำประกัน(Loan to Value, LTV)ในการกู้ยืมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะไม่ได้ข้อสรุปในวันนี้ แต่เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วจะไม่มีการปรับลด LTV ratio
ดังนั้น ราคาหุ้นกลุ่มอสังหายังคงน่าสนใจหากราคาปรับตัวลงมาเป็นโอกาสดีในการเข้า"ซื้อ" โดยแนะนำ"ซื้อ"บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์(LPN), บมจ.ศุภาลัย(SPALI)
SPALI กำไรไตรมาส 3/53 ลดลง 65%qoq และ 73%yoy มาที่ 158 ล้านบาท โดยรายได้ลดลง 50%qoq และ 53%yoy เนื่องจากการโอนคอนโดในไตรมาสนี้ค่อนน้อย ขณะที่ SG&A/sales เพิ่มขึ้นเป็น 19% เทียบกับ 6% ในไตรมาส 3/52 และ 11% ในไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการยกเลิกมาตรการภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมการโอน ด้าน Gross Margin ยังรักษาได้ที่ระดับ 43%
อย่างไรก็ตาม คาดไตรมาส 4/53 SPALI จะกลับมาทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้อีกครั้ง โดยจะมีการรับรู้รายได้จากการโอนคอนโด 3 โครงการ ประมาณ 5.0 พันล้านบาท คาดว่ากำไรน่าจะปรับขึ้นมาที่ระดับ 1.3 พันล้านบาท ราคาหุ้นปัจจุบันยังค่อนข้างถูก ซื้อขายกันที่ระดับ PER เพียง 7 เท่า ขณะที่ให้ dividend yield ที่ระดับ 7% แนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 14.5 บาท (อิง 8 เท่า PER ปี 54)
วานนี้(9 พ.ย.)หุ้น SPALI ปิดที่ 11 บาท ลดลง 0.20 บาท(-1.79%)มูลค่าซื้อขาย 79.27 ล้านบาท
หุ้น LPN ปิดที่ 10 บาท ลดลง 0.20 บาท (-1.96%)มูลค่าซื้อขาย 193.07 ล้านบาท