นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น(TRC) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า สิ้นปี 53 คาดว่ามูลค่างานในมือ(backlog) จะสูงเกิน 4 พันล้านบาท จากปัจจุบันที่มีงานที่ได้รับแล้วและรอการลงนามในบันทึกความเข้าใจ(LOI)รวม 3,500 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/53 ราว 400-500 ล้านบาท ส่วนทีเหลือทยอยรับรู้ฯในปี 54-55 เนื่องจากงานส่วนใหญ่มีระยะเวลาประมาณ 2 ปีครึ่ง
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานโครงการก่อสร้างโรงงานเอทานอลมูลค่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลภายในปีนี้หรือภายในเดือนนี้ ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปี 54-55 นอกจากนี้ ยังมีงานประมูลในส่วนอื่นอีก แต่บริษัทไม่ได้ตั้งเป้าหมายมากนัก เพราะหากได้งานสร้างโรงงานเอทานอลเข้ามาก็จะทำให้งานในมือเพิ่มขึ้นมาพอสมควรแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทยังรอประมูลงานของบมจ.กัลฟ์ อิเลคทริก ต่อเนื่อง โดยคาดว่าหากกัลฟ์ฯมี งานวางท่อก๊าซเพิ่มเติม บริษัทก็มีโอกาสที่จะได้รับงานแน่นอน จากปัจจุบันที่ได้มาแล้ว 7 โครงการ มูลค่า 978 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้ฯรายได้เข้ามาเต็มที่ในช่วงต้นปีหน้า หลังจากที่รับรู้ฯบางส่วนในไตรมาส 4/53
ส่วนงานของวางท่อก๊าซของ บมจ.ปตท.(PTT) ได้ยื่นประมูลไปแล้วมูลค่า 1-2 พันล้านบาท คาดว่าจะประกาศผลภายในเดือน ธ.ค.53 หรือเดือน ม.ค.54
"งานในไตรมาส 4 ดูดีกว่าไตรมาส 3 แต่ปีนี้เราสบายๆ แล้ว ตอนนี้พอเราได้งาน backlog มาขนาดนี้ เราก็เพลาๆแล้ว ไม่ได้อะไรมากมาย"นายสมัย กล่าว
ด้านงานต่างประเทศ บริษัทได้ยื่นประมูลงานในไนจีเรียไปแล้ว คาดว่าจะรู้ผลปี 54 ซึ่งเป็นงานด้าน Oil and Gass แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยมูลค่าได้ นอกจากนี้ ยังมีงานที่โอมาน ซึ่ง TRC เข้าไปตั้งบริษัทที่โอมานแล้วและมีการรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 400-500 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานเดิมที่เรารับมา มีระยะเวลา 3 ปี มูลค่า 1,500 ล้านบาท และยังจะเข้าประมูลงานที่โอมานอย่างต่อเนื่อง
"(งานที่โอมาน)ผลกำไรก็โอเค ออกมาดี และยังเดินหน้าประมูลงานที่โอมานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจาก 2 ประเทศนี้ ยังไม่ได้มองหาที่อื้นเพราะแค่ 2 ประเทศนี้ก็เยอะแล้ว"นายสมัย กล่าว
นายสมัย กล่าวว่า การที่บริษัทได้รับงานเข้ามาเป็นจำนวนมากในขณะนี้ จะส่งผลดีต่อรายได้ในอนาคต ทำให้แนวโน้มที่จะเข้าประมูลงานในปี 54 ผ่อนคลายลง โดยบริษัทสามารถสามารถเลือกงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)สูง ๆ ได้ จากปกติที่เคยตั้งเป้ามาร์จิ้นไว้ที่ 15% แต่ในปีนี้มาร์จิ้นเฉลี่ยค่อนข้างดี โดยอยู่ที่ 18-19%
*Q3 พลิกเป็นกำไรหลังมีรายการบวกกลับสำรอง,ทั้งปีกำไรแน่
นายสมัย เปิดเผยว่า ผลงานไตรมาส 3/53 จะพลิกเป็นกำไร จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน และทั้งปี 53 กำไรก็จะออกมาดี จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนกว่า 160 ล้านบาท ภายใต้เป้ารายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 1.7 พันล้านบาท แต่อาจจะทำได้ไม่ถึงเป้าหมายดังกล่าว เพราะยังไม่แน่นอน
ผลประกอบการในปีนี้แม้ว่ารายได้อาจจะยังไม่ได้ดีนัก แต่ในส่วนของกำไรจะออกมาดี เนื่องจากมีรายการบวกกลับเข้ามาจากปีที่แล้วที่บริษัทได้ตั้งสำรองหนี้สูญไว้เกิน ซึ่งในไตรมาส 3/53 ก็จะมีรายการบางส่วนบวกกลับเข้ามาด้วย โดยคณะกรรมการบริษัทจะมีการประชุมกันในวันที่ 10 พ.ย.เพื่อรับรองงบการเงินไตรมาส 3/53 ก่อนที่จะประกาศในวันที่ 11 พ.ย.นี้
"ปีหน้าคิดว่าน่าจะดีขึ้นจากปีนี้เราสบายๆ แต่ดูมีหลายโครงการน่าสนใจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน ปิโตรเคมีคอล ปีนี้กำไรดูดีกว่าปี 52 แน่นอนเพราะปีที่แล้วขาดทุน"นายสมัย กล่าว
อนึ่ง TRC ขาดทุนปี 52 เท่ากับ 165.67 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.50 บาท ส่วนไตรมาส 3/52 ขาดทุนสุทธิ 258.58 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.78 บาท
นายสมัย กล่าวว่า ประเด็นเรื่องเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น เป็นผลดีต่อบริษัท เนื่องจากเป็นผู้นำเข้าอุปกรณ์ต่าง ๆ แต่ปกติจะไม่กำไรมากมายเพราะเรามักจะกำหนดราคาล่วงหน้าไว้เลย โดยมีการนำเข้าท่อต่างๆ เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนจะต้องมองหาพันธมิตรหรือไม่หากจะรับงานโครงการขนาดใหญ่นั้น นายสมัย กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่จำเป็นที่จะต้องมีพันธมิตรหากจะเข้ารับงานขนาดใหญ่ เพราะศักยภาพของบริษัทยังสามารถรับเองได้