นายคาลิด ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ บมจ.พรีเชียสชิปปิ้ง(PSL)กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าหมายค่าระวางเรือในปีนี้ที่ระดับ 12,500 เหรียญ/ลำ/วัน แม้ว่าในช่วง 9 เดือนแรกจะทำได้เพียง 12,279 เหรียญ/ลำ/วัน ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย แต่บริษัทยังเชื่อว่าทั้งปียังน่าจะทำได้ใกล้เคียงกับเป้าหมาย โดยค่าใช้จ่ายคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 4,750 เหรียญ/ลำ/วัน ที่เหลือจะถือเป็นรายได้ของบริษัท
แต่ทั้งปี 53 รายได้คงออกมาต่ำกว่าปีก่อนมาก เนื่อจากกองเรือของบริษัทลดน้อยลง และเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้การขนส่งมีไม่มาก รวมทั้งประเทศจีนที่แม้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโต แต่ทางการก็ยังควบคุมเอาไว้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปีนี้รายได้จะต่ำกว่าเป้า แต่บริษัทยังคงนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้ได้ทุกไตรมาส โดยล่าสุด จ่ายในอัตรา 20 สต./หุ้นในงวดสิ้นสุด 30 ก.ย.53
นายคาลิด กล่าวว่า ปีหน้าบริษัทคงแผนรับเรือใหม่เข้ามาในกองเรือ 3 ลำ ในช่วงเดือน ก.ค.54 จำนวน 1 ลำ และ เดือน พ.ย.54 อีก 2 ลำ ซึ่งเป็นจำนวนน้อยกว่าแผนงานเดิมที่คาดว่าจะมีเรือใหม่เข้ามา 5 ลำ เนื่องจากอู่ต่อเรือดำเนินการล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งเรือใหม่จะมีขนาด 34,000 เดทเวทตัน จำนวน 2 ลำ และ ขนาด 54,000 เดทเวทตัน จำนวน 1 ลำ จากทั้งหมดที่สั่งต่อเรือใหม่ ขนาด 34,000 เดทเวทตัน จำนวน 12 ลำ และขนาด 54,000 เดทเวทตัน จำนวน 6 ลำ
นอกจากนั้น บริษัทยังคงเดินหน้าแผนซื้อเรือมือสองเพิ่มเติม แต่ที่ผ่านมาซื้อเพิ่มเข้ามาได้เพียง 2 ลำ เนื่องจากราคาเรือไม่เป็นที่พอใจสำหรับฝ่ายบริหาร ทั้งนี้ การที่จะได้เรือมือสองเข้ามาจะต้องขึ้นกับราคาและขนาดของเรือที่เหมาะสม โดยบริษัทยังคงแผนขยายกองเรือเพิ่มเป็น 65 ลำ จากปัจจุบัน 21 ลำ
นายคาลิค มองว่า ธุรกิจเดินเรือกว่าจะฟื้นตัวก็คงเป็นปลายปี 55 เนื่องจากปริมาณเรือในขณะนั้นน่าจะลดลง เพราะมีเรือเก่าที่เตรียมปลดระวางออกจากระบบค่อนข้างมาก แต่ปีหน้ายังคงน่ากังวล เพราะประเมินว่าจะมีกองเรือใหม่เพิ่มเข้ามา อุตสาหกรรมเติบโตถึง 17% ถือว่าเติบโตมากเป็น 2 เท่าของปีนี้ที่เติบโต 7.5% อุตสาหกรรมเดินเรือก็ยังประสบปัญหา
บริษัทยังเชื่อว่าแม้ธุรกิจเดินเรือเติบโต และขนาดกองเรือในตลาดเพิ่มขึ้นก็จะไม่กระทบกับรายได้ของบริษัทมากนัก เพราะบริษัทมีการทำสัญญาล่วงหน้าในระยะยาวกับลูกค้าไปแล้วถึง 55% และจะคงอัตราดังกล่าวไว้ เพราะหวังว่าราคาเดินเรือแบบ spot จะปรับสูงขึ้น