ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 10.29 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 11, 2010 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงยอดขาดดุลการค้าและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานที่ปรับตัวลดลงเกินคาด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุม G20 ซึ่งจัดขึ้นที่เกาหลีใต้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 10.29 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 11,357.04 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 5.31 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 1,218.71 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 15.80 จุด หรือ 0.62% แตะที่ 2,578.78 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.1 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 6 พ.ย.ร่วงลง 24,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 435,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 450,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐกำลังฟื้นตัว

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ลดลงสู่ระดับ 4.40 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่าจะอยู่ที่ 4.55 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยให้สหรัฐสามารถส่งออกสินค้าได้เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

ทั้งนี้ ยอดส่งออกเดือนก.ย.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% แตะระดับ 1.541 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์การเงินในเดือนส.ค.2551 ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนก.ย.ลดลง 1.0% แตะระดับ 1.981 แสนล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่มีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุม G20 ที่เกาหลีใต้ โดยมีการคาดการณ์ว่าที่ประชุมจะโจมตีสหรัฐอย่างหนักในเรื่องการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดภาวะฟองสบู่และจะยิ่งฉุดรั้งค่าเงินดอลลาร์ให้อ่อนแอลงอีก

ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่รวมถึงจีนและเยอรมนี ได้ออกมาโจมตีมาตรการ QE2 ของสหรัฐอย่างหนัก โดยบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือของจีนประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลง 1 ขั้น มาอยู่ที่ระดับ A+ จาก AA เพราะมองว่ามาตรการ QE2 จะฉุดรั้งสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง ซึ่งจะยิ่งทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอนมากขึ้น และอาจทำให้สหรัฐเผชิญกับความเสี่ยงที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้

ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 1.09 ดอลลาร์ แตะที่ 87.81 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นเชฟรอน คอร์ป และหุ้นโคโนโคฟิลิปส์ ทะยานขึ้นด้วย ขณะที่หุ้นหลายตัวในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ดีดตัวขึ้น รวมถึงหุ้นฟอร์ดที่ปิดบวก 3.5% หลังจากเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) เปิดเผยว่าบริษัทมีรายได้รวม 2 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3

นักลงทุนจับตาดูการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ส่วนวันพฤหัสบดี ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ เนื่องจากหน่วยงานของรัฐบาลและตลาดพันธบัตรสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันทหารผ่านศึก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ