ธนาคารกลางจีนประกาศเมื่อช่วงเย็นวานนี้ว่า ธนาคารกลางเพิ่มสัดส่วนสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (Reserve Requirement Ratio: RRR) อีก 0.50% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.นี้เป็นต้นไป
นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วในปีนี้ที่ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มสัดส่วน RRR และเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อควบคุมสภาพคล่องในตลาด
การปรับเพิ่ม RRR ซึ่งอยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของตลาดนั้น คาดว่า จะสร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นกระดานเอของจีนในระยะสั้น แต่นักวิเคราะห์คาดว่า การเพิ่ม RRR จะไม่ทำให้แนวโน้มช่วงขาขึ้นในระยะยาวของตลาดหุ้นกระดานเอของจีนเปลี่ยนแปลงไป
-- ตลาดหุ้นกระดานเอจะยังคงคึกคักต่อไปในระยะยาว
นายเหลียว ยี นักวิเคราะห์จาก China Merchants Securities กล่าวว่า การเพิ่ม RRR อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น แต่เนื่องจากการปรับ RRR ขึ้น 0.50% ไม่ถือว่าเป็นสัดส่วนที่มาก ซึ่งอาจจะไม่ทำให้สภาพคล่องที่มีอยู่ในปริมาณมากของตลาดเปลี่ยนแปลงไป โดยคาดว่าตลาดยังคงมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในช่วงขาขึ้นในระยะยาว
การพุ่งขึ้นของหุ้นที่มีทุนจดทะเบียนมากในตลาดช่วยหนุนตลาดหุ้นกระดานเอของจีนทะยานขึ้นแข็งแกร่งในเดือนต.ค. โดยมูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นพุ่งขึ้นกว่า 3.90 แสนล้านหยวนในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นกว่า 70% จากเดือนก.ย.
ด้านนายกัว เจียนซุน นักวิเคราะห์จากบริษัท Soochow Securities เชื่อว่า เนื่องจากตลาดหุ้นกระดานเอมีการซื้อขายที่แข็งแกร่งนับตั้งแต่เดือนต.ค. การปรับขึ้น RRR จึงอาจะส่งผลให้ตลาดปรับฐานลงแค่ในระยะสั้นๆเท่านั้น แต่หากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ไม่สามารถควบคุมได้ในเดือนธ.ค. ก็มีความเป็นไปอย่างสูงมากว่าธนาคารกลางจีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งภายในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดหุ้นกระดานเอของจีน
ขณะที่นายเกา เตียนหยง ผู้เชี่ยวชาญจาก Central University of Finance and Economics (CUFE) กล่าวว่า การเพิ่ม RRR จะไม่สามารถขจัดสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดหุ้นได้ และคาดว่าการดำเนินการดังกล่าจะมีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นแค่ในระยะสั้นๆเท่านั้น แต่จะไม่ทำให้แนวโน้มการซื้อขายที่แข็งแกร่งของตลาดในระยะยาวและระยะกลางเปลี่ยนแปลงไป
-- หุ้นกลุ่มธนาคารถูกกดดันอย่างหนัก
การเพิ่มสัดส่วนสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ หรือ RRR หมายความว่า เงินทุนในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์จะมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำกำไรของธนาคาร นอกจากนี้ ยังเป็นที่คาดการณ์กันในวงกว้างว่า การเพิ่ม RRR จะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มธนาคารในตลาดกระดานเอและการร่วงลงของยอดการปล่อยสินเชื่อจะส่งผลให้ราคาบ้านในจีนพุ่งขึ้น ซึ่งจะฉุดหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในที่สุด
แต่นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า หุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงอย่างหนักในช่วง 2 วันที่แล้ว ซึ่งอาจสะท้อนว่าตลาดได้คาดการณ์เรื่องการเพิ่มสัดส่วน RRR กันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้ซึมซับผลกระทบข้างเคียงของการเพิ่ม RRR เอาไว้แล้วเช่นกัน จึงเชื่อว่าการเพิ่ม RRR จะไม่ทำให้ตลาดปรับฐานครั้งใหญ่อย่างแน่นอน
-- โอกาสยังมีอยู่สำหรับหุ้นกลุ่ม anti-inflation stock
หุ้นกลุ่ม anti-inflation stock ทะยานขึ้นแข็งแกร่งนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า การเพิ่ม RRR จะไม่ทำให้สภาพคล่องส่วนเกินลดน้อยลง และการคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อก็ยังคงมีอยู่ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นโอกาสดีที่จะเข้าลงทุนในหุ้น anti-inflation stock
นักวิเคราะห์ระบุว่า หุ้นกลุ่มสินค้าการเกษตร กลุ่มอาหาร กลุ่มเคมีภัณฑ์ กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภค มีแนวโน้มพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในตลาดหุ้นจีน สำนักข่าวซินหัวรายงาน