นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอเปอเรชั่น (SAMART) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศเพื่อเข้าร่วมประมูลงานโครงข่าย 3 จี ของบมจ.ทีโอที ที่มีแผนลงทุนตามมติ ครม. 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในอีก 1-2 สัปดาห์
"ตอนนี้บริษัทคุยกับพันธมิตรก้าวหน้าไปมาก อย่างไรก็ตาม 3จี ก็ต้องมีผู้ร่วมทุน เพราะใช้เงินลงทุนสูงและจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ใน 1-2 อาทิตย์นี้น่าจะมีข้อสรุป แต่ก็กังวลบ้างว่างานภาครัฐมักเปิดประมูลล่าช้า ตอนนี้ ทีโออาร์ ก็ยังไม่ออกมาชัดเจน แต่ถ้า ครม.อนุมัติ ก็คงมีงานแน่นอน" นายวัฒน์ชัย กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีความพร้อมทางการเงินในการเข้าประมูลโครงข่าย 3จีของทีโอที มูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีสถาบันการเงินหลายแห่งเสนอสนับสนุนเงินกู้ แต่ยอมรับว่าในการเข้าประมูลครั้งนี้จะมีคู่แข่งหลายรายทั้งในและต่างประเทศ เช่น บมจ.ล็อกเลย์ (LOXLEY) , ซีเมนส์ และ หัวเว่ย
นายวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่า หากบริษัทประมูลงานดังกล่าวได้ก็อาจทำให้ทั้งกลุ่มจะต้องใช้เงินลงทุนสูงถึงหลักหมื่นล้านบาทในปีหน้า ทั้งในส่วนของ บมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL) ที่จะเป็นผู้เข้าประมูลติดตั้งอุปกรณ์และโครงข่าย รวมถึง บมจ.สามารถ ไอโบมาย (SIM) ที่ต้องนำเข้าและจำหน่ายโทรศัพท์มือถือเพื่อรองรับเทคโนโลยี 3จี
และยังประเมินว่าหากได้งาน 3จี ของ ทีโอทีได้จะทำให้รายได้ของกลุ่มบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยอาจได้เห็นรายได้สูงถึง 3-4 หมื่นล้านบาทในปีหน้า จากปี 53 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 1.8-1.9 พันล้านบาท เนื่องจากงานขยายโครงข่าย 3จีมีมูลค่าสูงถึง 1.9 หมื่นล้านบาท
นอกจากนั้น บริษัทยังตั้งเป้าหมายว่าในปี 54 ลูกค้า MVNO จะเพิ่มเป็น 5-6 แสนราย จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีลูกค้า 1.3-1.5 แสนราย เนื่องจากเชื่อว่าทีโอทีจะมีการขยายเครือข่ายบริหารโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3จีบนโครงข่ายเดิมให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
นายวัฒน์ชัย คาดว่าในปีนี้บริษัทจะมีกำไรสุทธิเติบโต 40% จากปีก่อน โดยช่วง 9 เดือน มีกำไรสุทธิแล้ว 485 ล้านบาท สูงกว่ารายได้ทั้งปี 52 ทีมีกำไร 455 ล้านบาท
"ตอนนี้กำไรสุทธิของเราแค่ 9 เดือนก็โตกว่าปีก่อนทั้งปีแล้ว ถ้าไตรมาส 4 ได้กำไรเพิ่มอีกกว่า 100 ล้านบาท ก็โตกว่าปีก่อน 30-40% แล้ว ก็คงได้เห็นกำไรทั้งปีของปีนี้โตกว่าปีก่อนแน่" นายวัฒน์ชัย กล่าว
ส่วน SAMTEL คาดว่าไตรมาส 4/53 รายได้และกำไรสุทธิจะดีกว่า ไตรมาส 3/53 เนื่องจากมีงานบางส่วนที่รับรู้รายได้ล่าช้าจากไตรมาส 3/53 แต่ยอมรับรายได้ทั้งปี 53 จะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 8 พันล้านบาท แต่มั่นใจว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 40-50% จากปีก่อนตามที่คาดการณ์ไว้