ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากบริษัท ซิสโก ซิสเต็มส์ เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการปีงบการเงิน 2554 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่จะทราบผลการประชุมสุดยอด G20 ซึ่งจัดขึ้นที่เกาหลีใต้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในด้านลบที่เกิดจากการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ของสหรัฐ และปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 73.94 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 11,283.10 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 5.17 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 1,213.54 จุด และดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 23.26 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 2,555.52 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 950 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังจากบริษัท ซิสโก ซิสเต็มส์ เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการปีงบการเงิน 2554 ที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอกำลังส่งผลกระทบต่อกำไรในภาคเอกชน ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ปิดร่วง 16.2% และยังฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีตัวอื่นๆดิ่งลงด้วย โดยหุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ด ปิดร่วง 2.4% และหุ้นไอบีเอ็ม คอร์ป ปิดลบ 0.8%
ทางการสหรัฐไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในวันพฤหัสบดีที่ 11 พ.ย.เพราะหน่วยงานราชการและตลาดพันธบัตรปิดทำการเนื่องในวันทหารผ่านศึก จึงทำให้นักลงทุนหันไปจับตาดูการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่เกาหลีใต้ โดยมีการคาดการณ์ว่าที่ประชุมจะกำหนดเป้าหมายการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสกุลเงิน ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในด้านลบของการใช้มาตรการ QE2 ของสหรัฐ อาจบดบังบรรยากาศการประชุม G20 และอาจทำให้สหรัฐถูกโจมตีอย่างหนักในการประชุมครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะจีนและเยอรมนีที่มีปฏิกริยาในด้านลบต่อมาตรการ QE2
วูลฟ์กัง ชูเบิล รมว.คลังเยอรมนีกล่าวว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจใช้มาตรการ QE2 ด้วยการอัดฉีดเงินซื้อพันธบัตร 6 แสนล้านดอลลาร์นั้น ถือเป็นการกระทำที่สูญเปล่า เพราะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามเป้าหมาย และกลับจะสร้างปัญหามากขึ้น นายชูเบิลกล่าวว่า ทางการเยอรมนีจะหารือเรื่องการใช้มาตรการ QE2 กับเจ้าหน้าที่สหรัฐในการประชุมสุดยอด G20 ที่เกาหลีใต้สัปดาห์หน้านี้ โดยจะหารือทั้งในระดับทวิภาคีและหารือในที่ประชุม
นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรป หลังจากมีรายงานว่า ต้นทุนการรับประกันการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรของรัฐบาลไอร์แลนด์ โปรตุเกส และสเปน พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่าประเทศเหล่านี้อาจเผชิญวิกฤตหนี้สาธารณะเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับกรีซ
นักลงทุนจับตาดูการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นเดือนพ.ย.จะอยู่ที่ 69.0 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค.ที่ 67.7 จุด