นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น(AMATA) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาขายที่ดิน 300-400 ไร่ให้กับผู้ที่สนใจ 5-6 ราย คาดว่าได้ข้อสรุปภายในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจะกระจายไปทั้งพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครและอมตะซิตี้ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวสูงยังเป็นกลุ่มยานยนต์
อย่างไรก็ตาม คาดว่ารายได้ในไตรมาส 4/53 ต่ำกว่าไตรมาส 3/53 ที่มีรายได้เติบโตก้าวกระโดดจากการเซ็นสัญญาขายที่ดินให้แคนนาดอล แต่ทั้งปีนี้ยังคงเป้าหมายเดิมที่จะมียอดขายที่ดิน 1.5-2 พันไร่
"ไตรมาส 4 เราคงมีรายได้ drop ลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 แม้ว่าจะพยายามปิดดีลที่เจรจาอยู่ 300-400 ไร่ แต่ไตรมาส 3 มีดีลใหญ่อย่างแคนนาดอล คงเทียบกับยาก แต่ถือว่าไตรมาส 4 ยังคงสดใส รวมถึงปีหน้าหากไม่มีปัญหาการเมือง ถ้าประท้วงไม่ดี แต่ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่เชื่อว่าจะส่งผลดี"นายวิบูลย์ กล่าว
และปีหน้าคาดว่ายอดขายที่ดินจะเติบโตประมาณ 10% แต่ก็มีโอกาสเติบโตได้มากกว่านี้หากไม่มีปัญหาการเมือง หรือการประท้วงที่มีความวุ่นวาย กลุ่มลูกค้าหลักยังเป็นญี่ปุ่น 60% แต่ลูกค้าจากจีนก็จะมีอัตราขยายตัวสูงมากจากปัจจุบันอยู่ที่ 10% หลังจากบริษัทได้เซ็นสัญญาความร่วมมือกับกลุ่ม Holly จากจีนในการจัดการที่ดิน 1 พันไร่ งบลงทุน 2 พันล้านบาท โดยจะเริ่มการลงทุนในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า
นายวิบูลย์ กล่าวว่า ภาคธุรกิจของจีนสนใจเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทย เนื่องจากปัจจุบันจีนประสบปัญหาการกีดกันการค้าจากยุโรปและสหรัฐ รวมทั้งต้องการได้รับสิทธิประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าเสรี(FTA )ที่ไทยได้ทำไว้กับประเทศต่าง ๆ โดยกลุ่มหลักยังเป็นยานยนต์และชิ้นส่วน รวมทั้งเครื่องจักรกลหนัก
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนพัฒมานิคมอุตสาหกรรมเชื่อมโยงท่าเรือน้ำลึกทวายที่ทาง ITD ได้เข้าไปรับงานไว้ แต่ก็ยังมีประเด็นที่น่ากังวล เพราะปัญหาการเมืองในพม่ามีความเปราะบาง และรายละเอียดในการลงทุนยังมีน้อย จึงคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะได้ข้อสรุป แต่พื้นที่ดังกล่าวถือว่าเป็นเส้นทางเชื่อมต่อที่มีศักยภาพในอนาคต