AI ลดเป้ารายได้ปี 53 เหลือ 2.3-2.4พันลบ.จาก 3พันลบ.ดีมานด์ไบโอดีเซลต่ำ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 12, 2010 15:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์(AI) กล่าวว่า บริษัทปรับลดเป้ารายได้ปี 53 ลงเหลือ 2.3-2.4 พันล้านบาท จากเดิมคาดไว้ 3 พันล้านบาท หรืออาจทำรายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้ 2.4 พันล้านบาท เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซลในปัจจุบันลดลงเหลือประมาณ 40 ล้านลิตร/วัน จากช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่ 55 ล้านลิตร/วัน

ทั้งนี้ ช่วงไตรมาส 3/53 ความต้องการใช้ไบโอดีเซลลดลงอย่างชัดเจน เนื่องจากรถยนต์จำนวนมากหันไปใช้ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งแนวโน้มความต้องการใช้ในไตรมาส 4/53 ก็คงอยู่ในทิศทางเดียวกับไตรมาส 3/53 แต่เชื่อว่าความต้องการจะฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 1/54 หลังจากกระทรวงพลังงานบังคับเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลเป็น 5% ใน 1 ม.ค.54 จากเดิม 3%

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเดินหน้าโครงการก่อสร้างหอกลั่นแห่งใหม่ตามแผนงาน โดยความคืบหน้าการก่อสร้างขณะนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ม.ค.54 และจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.พ.54 กำลังการผลิตอยู่ที่ 8.5 แสนลิตร/วัน ส่วนหอกลั่นเก่ามีกำลังการผลิตที่ 3.5 แสนลิตร/วัน

นายธนิตย์ กล่าวอีกว่า สาเหตุอื่น ๆที่ทำให้รายได้ไม่เติบโตตามเป้าหมาย เนื่องจากธุรกิจวิศวกรรมนั้น ในช่วงที่ผ่านมาการก่อสร้างเกิดความล่าช้า เนื่องจากผลกระทบในช่วงฤดูฝน ส่วนธุรกิจท่าเรือและโกดังเก็บสินค้า ปริมาณการใช้ก็ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ

ขณะที่ธุรกิจผลิตลูกถ้วยไฟฟ้า ความต้องการในประเทศมีค่อนข้างจำกัด เพราะไม่ใช่สินค้าคอนซูเมอร์ ผู้ใช้หลักมีเพียงการไฟฟ้าฯ เท่านั้น ซึ่งความต้องการใช้ลูกถ้วยขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจ หากถ้าเศรษฐกิจดี การก่อสร้างต่าง ๆ ก็จะมีมากขึ้น ทั้งในส่วนการก่อสร้างโรงงานและที่อยู่อาศัย แต่อายุการใช้งานของลูกถ้วยไฟฟ้าสูงถึง 15 ปี และก็ยังไม่ค่อยนิยมเปลี่ยนกัน

ส่วนการทำตลาดลูกถ้วยไฟฟ้าในต่างประเทศนั้น ช่วงหลังคู่แข่งจากจีนและอินเดียมาตีตลาด ซึ่งสินค้ามีราคาถูกมาก ต้นทุนของบริษัทยังไม่ต่ำเท่าราคาขายของจีนและอินเดียเลย

อนึ่ง ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัท 60% มาจากธุรกิจไบโอดีเซลและน้ำมันพืช คลังน้ำมัน และโลจิสติกส์ ส่วนอีก 40% มาจากธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้า

นายธนิตย์ กล่าวอีกว่า แม้ว่ารายได้จะพลาดเป้าหมาย แต่บริษัทยังเชื่อว่ากำไรในปีนี้จะดีกว่าปีก่อน หลังจากช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีกำไรแล้ว 150 ล้านบาท สูงกว่าทั้งปีก่อนที่มีกำไร 120 ล้านบาท

ส่วนรายได้ในปี 54 โดยรวมคิดว่ายังเติบโต แต่ต้องรอดูความชัดเจนในเรื่องการบังคับใช้สัดส่วนน้ำมันไบโอดีเซล

"รายได้ปีหน้าหลัก ๆ ต้องรอดูความชัดเจนเรื่องสัดส่วนน้ำมันไบโอดีเซลในวันที่ 2 ม.ค.ถ้าทางกระทรวงพลังงานยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ก็คงทำให้รายได้ของเรามีโอกาสโต แต่ทั้งนี้ถ้ามีการเลื่อนออกไปก็จะต้องรอดูกันอีกที ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยเลื่อนมาครั้งหนึ่ง ในปีที่แล้ว"นายธนิตย์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ