นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น(TRC) คาดว่าสิ้นปี 53 งานในมือ(backlog)ของบริษัทมีสิทธิสูงขึ้นแตะระดับ 5 พันล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอผลการประมูลงานขนาดใหญ่ราว 3-4 พันล้านบาทในช่วงปลายปีนี้
“ปกติบริษัทเข้าประมูลงานก็หวังว่าจะได้งาน 1 ใน 3 ของงานที่เข้าประมูล ปีนี้คงได้งานเพิ่มจากที่ประมูลงาน 3-4 พันล้าน คงเพิ่มbacklog ในมือได้ สิ้นปีคงเห็น 5 พันล้านบาท"นายสมัย กล่าว
สำหรับผลประกอบการในปี 53 คาดว่าจะมีรายได้ราว 1.5 พันล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.7 พันล้านบาท แต่อัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยสูงถึง 9% ตามระดับปกติที่ 7% เนื่องจากในปีนี้บริษัทจะมีการบันทึกกลับสำรองบางส่วนในช่วงไตรมาส 4/53 จากที่ตั้งสำรองไว้ทั้งหมด 76 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการในช่วงดังกล่าวเติบโตก้าวกระโดดจากไตรมาส 3/53
“ปีนี้กำไรไตรมาส 4/53 จะออกมาดีมาก เพราะเราจะรับรู้กำไรจากการตั้งสำรองโครงการของบางจากหลายสิบล้านบาท แม้ไม่ถึง 76 ล้านบาทแต่เป็นการบันทึกกำไร ยังไงก็ส่งผลดีต่องบไตรส 4/53 ดีกว่างบไตรมาส 3/53 มาก"นายสมัย กล่าว
ส่วนปี 54 บริษัท คาดว่าจะมีรายได้อย่างน้อย 2 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิในอัตรา 7% ซึ่งเป็นกำไรจากการดำเนินงานที่ปกติบริษัทสามารถทำได้ ทั้งนี้รายได้ของบริษัทจะมาจากการรับรู้รายได้จาก backlog
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าเป็นพันธมิตรและรับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์(โซลาร์ฟาร์ม)กับผู้ได้รับค่าแอดเดอร์เดิมที่ 8 บาทต่อหน่วยจำนวน 1-2 ราย โดยคาดว่าจะมีผลตอบแทนจากการลงทุนสูงถึงระดับ 18% จากปกติการรับงานโครงการประเภทนี้จะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ 12-13% เท่านั้น
นายสมัย กล่าวว่า บริษัทมีความพร้อมในการลงทุนโดยมีกระแสเงินสด 100-200 ล้านบาท และมีความพร้อมในการกู้เงินจากสถาบันการเงิน แต่โครงการพลังงานที่เหมาะสมและเห็นผลตอบแทนดีนั้นหายาก ขณะที่บริษัทมีความต้องการกระจายรายได้โดยการลงทุนด้านพลังงาน และยังคงรับงานด้านรับเหมาก่อสร้างด้านพลังงานให้กับบริษัทชั้นนำ อย่าง บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) บมจ.ปตท.(PTT) บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) รวมทั้งงานในต่างประเทศที่ เช่น ตะวันออกกลางที่มีงานจำนวนมาก กำไรขั้นต้นสูงและความเสี่ยงต่ำ โดยปัจจุบันมีงานที่ไนจีเรีย โอมาน ส่วนในอาเซียนมีที่ พม่า และกัมพูชา