ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 11.00 จุด ปรับฐานตามตลาดภูมิภาค/สัปดาห์หน้าผันผวนค่อนข้างสูง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 12, 2010 17:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,018.86 จุด ลดลง 11.00 จุด(-1.07%)มูลค่าการซื้อขาย 48,418.21 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 1,026.40 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 999.48 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 117 หลักทรัพย์ ลดลง 300 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 96 หลักทรัพย์

นายเตชธร ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และบริหารผลิตภัณฑ์ตราสารอนุพันธ์ บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐานตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า โดยตลาดบ้านเราคาดว่ารับแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติในวันนี้ จากที่มีหุ้นขนาดใหญ่อย่างหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลงกัน

ทั้งนี้ ปัจจัยที่เข้ามากระทบเป็นผลจากภายนอกประเทศเป็นหลัก จากเรื่องความกังวลว่าจีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย, การรอดูมาตรการการควบคุมค่าเงินของแบงก์ชาติหลายแห่งในแถบเอเชีย, รอดูผลประชุม G20 รวมถึงมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินในแถบยุโรปด้วย

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายเตชธร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะมีความผันผวนค่อนข้างสูง พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,000-1,030 จุด

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรงทิศทางเดีบวกับตลาดหุ้นภูมิภาค ซึ่งมองว่าหลังจากตลาดฯรับรู้เรื่องมาตรการ QE2 แล้วก็ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง และช่วงเวลานี้ตลาดฯถูกกดดันจากหลายๆปัจจัยทั้งความวิตกเรื่องปัญหาหนี้สาธารณะในแถบยุโรปจะกลับมาอีกครั้ง หลังจากมีข่าวว่าทางรัฐบาลโปรตุเกสและไอร์แลนด์อาจจะต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินเพิ่มเติม

ส่วนการประชุม G20 ก็คาดการณ์ว่าคงไม่มีข้อตกลงหรือมาตรการร่วมกันออกมาที่จะควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนหรือเงินทุนไหลเข้า ซึ่งประเทศต่างๆก็คงมีมาตรการออกมาเป็นของตัวเอง ประกอบกับหลายๆประเทศเวลานี้ก็มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยเฉพาะจีน ทำให้นักลงทุนทั่วโลกต่างวิตกกังวล

ขณะที่ปัจจัยในประเทศเรื่องมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย มองว่าไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับตลาดฯ เนื่องจากไม่ได้เป็นมาตรการรุนแรง

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายวรุตม์ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นมา แต่ภาพรวมยังอยู่ในลักษณะไซด์เวย์ พร้อมให้กรอบการแกว่ง 1,010-1,025 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,843.67 ล้านบาท ปิดที่ 329.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,747.07 ล้านบาท ปิดที่ 46.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,358.57 ล้านบาท ปิดที่ 182.50 บาท ลดลง 5.50 บาท

PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 2,065.49 ล้านบาท ปิดที่ 35.25 บาท ลดลง 0.25 บาท

PTL มูลค่าการซื้อขาย 2,051.97 ล้านบาท ปิดที่ 40.00 บาท ลดลง 0.75 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ