นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารธนชาต (TBANK) และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุอุทกภัยในวงกว้างทั่วประเทศ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทย เล็งเห็นถึงความเดือนร้อนของผู้ประสบภัย จึงได้ร่วมกันออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยดังกล่าว โดยครอบคลุมลูกค้าของธนาคารทั้ง 2 แห่ง ทั้งลูกค้าด้าน สินเชื่อรถยนต์ใหม่ รถยนต์มือสอง สินเชื่อธนชาตรถแลกเงิน บัตรเครดิต บัตรเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อเคหะ
โดย สินเชื่อรถยนต์ใหม่ รถยนต์มือสอง และ สินเชื่อธนชาตรถแลกเงิน ลูกค้าสามารถขอพักการชำระหนี้ได้สูงสุด 90 วัน และสามารถขอขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ออกไปได้อีกสูงสุด 12 เดือน โดยอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงตามสัญญาเดิม ทั้งนี้ต้องไม่ต่ำกว่า 1.88%ต่อปี รวมถึงจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมปรับหนี้คงค้าง และค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือทวงถาม นอกจากนี้ ลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร สามารถสมัครขอใช้บริการบัตรสินเชื่อบุคคลธนชาต FLASH เพื่อขอวงเงินกู้ฉุกเฉิน ไปใช้เป็นวงเงินหมุนเวียนได้อีกด้วย
ด้านผลิตภัณฑ์ บัตรเครดิต บัตรสินเชื่อบุคคล และสินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารจะยกเว้นค่างวดและยอดดอกเบี้ยจ่าย เมื่อลูกค้าทำการแจ้งความจำนงค์ขอผ่อนผันสินเชื่อ โดยยอดจ่ายขั้นต่ำจะสะสมตามรอบบัญชีปกติ
สำหรับ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเคหะ ลูกค้าสามารถขอผ่อนผันค่างวดโดยไม่ต้องชำระคืนเงินต้นเป็นเวลาสูงสุด 12 เดือน โดยชำระเฉพาะดอกเบี้ย ดังนี้ กรณีดอกเบี้ยคงที่ คำนวณอัตราดอกเบี้ยตามสัญญากู้เงิน ส่วน กรณีดอกเบี้ยลอยตัว งวดที่ 1-6 คำนวณอัตราดอกเบี้ยตามสัญญา บวก 0.5% และงวดที่ 7-12 คำนวณอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาบวก 1.0% นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถขอวงเงินกู้เพิ่ม โดยได้วงเงินกู้สูงสุด 1 ล้านบาท เมื่อรวมกับภาระหนี้สินเชื่อเคหะแล้ว ต้องไม่เกิน 100% ของราคาประเมินเดิม
ทั้งนี้ ไม่ต้องประเมินราคาหลักประกันใหม่ โดยให้ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี แต่ไม่เกินระยะเวลาสิ้นสุดสินเชื่อเคหะหลัก อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 = 4.5%ต่อปี หลังจากนั้น = MLR ลบ 0.5% ต่อปี
นายสมเจตน์ กล่าวว่า การออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทยในครั้งนี้ ธนาคารฯ ต้องการเข้ามาช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งประสบอุทกภัยครั้งใหญ่และมีประชาชนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบซึ่งรวมถึงลูกค้าของธนาคาร ซึ่งคาดว่ามาตรการที่ออกมาครั้งนี้จะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระของลูกค้าได้เป็นอย่างดี