บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 11/2553 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2553 ได้อนุมัติให้ลงทุนในบริษัท เอ็มไอเอชแอล (โฮลดิ้ง) จำกัด ทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1,000,000 บาท โดย NWR ถือหุ้นร้อย ละ 99.98 นายอาภาธร กรรณสูต ร้อยละ 0.01 นายมงคล พีรศานติกุล ร้อยละ 0.01 วัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในบริษัทจำกัด และ บริษัทมหาชนจำกัด
พร้อมกันนั้น ที่ประชุมมีมติให้ขายเงินลงทุนใน Meeyahta International Hotel Limited (MIHL) ซึ่งเป็นบริษัท ย่อยในสหภาพพม่า จำนวน 92 หุ้น ให้แก่บริษัท เอ็มไอเอชแอล (โฮลดิ้ง) จำกัด และ ภายในไตรมาสแรกของปี 2554 NWR ขาย บริษัท เอ็มไอเอชแอล (โฮลดิ้ง) จำกัด จำนวน 9,998 หุ้นซึ่งเท่ากับจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ ให้แก่บุคคลภายนอกซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยว ข้องใด ๆ กับบริษัท
โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ MIHL (มูลค่าหุ้น หุ้นละ Kyat 10,000)ณ วันที่ 30 กันยายน 2553
Serge Pun & Associates Ltd. ถือหุ้น 20 หุ้น เท่ากับร้อยละ 11 Serge Pun & Associates (Myanmar) Ltd. ถือหุ้น 30 หุ้น เท่ากับร้อยละ 17 บริษัท พรีเมียร์เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 17 หุ้น เท่ากับร้อยละ 10 บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 92 หุ้น เท่ากับร้อยละ 53 บริษัท พรีเมียร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถือหุ้น 16 หุ้น เท่ากับร้อยละ 9 รวมทั้งสิ้น 175 หุ้น เท่ากับร้อยละ 100
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554 โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ MIHL จะเป็นดังนี้
Serge Pun & Associates Ltd. ถือหุ้น 20 หุ้น เท่ากับร้อยละ 11 Serge Pun & Associates (Myanmar) Ltd. ถือหุ้น 30 หุ้น เท่ากับร้อยละ 17 บริษัท พรีเมียร์เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 17 หุ้น เท่ากับร้อยละ 10 บุคคลภายนอกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับบริษัท ถือหุ้น 92 หุ้น เท่ากับร้อยละ 53 บริษัท พรีเมียร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถือหุ้น 16 หุ้น เท่ากับร้อยละ 9 รวมทั้งสิ้น 175 หุ้น เท่ากับร้อยละ 100
ราคาขายของเงินลงทุน ราคาขายที่บริษัทขาย MIHL ให้แก่บริษัท เอ็มไอเอชแอล (โฮลดิ้ง) จำกัด เท่ากับ 19,500,000 บาท และราคาขายที่บริษัทขายบริษัท เอ็มไอเอชแอล (โฮลดิ้ง) จำกัด ให้แก่บุคคลภายนอก ประมาณเท่ากับ 20,000,000 บาท ซึ่งเป็นราคาขายมาจากการเจรจาต่อรองระหว่างบริษัทและผู้ซื้อ
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทเห็นว่า การถือหุ้นของ MIHL ต่อไป ไม่มีโอกาสได้ผลตอบแทนจากผลการดำเนินงาน เนื่อง จาก MIHL มีผลการดำเนินงานขาดทุนมาโดยตลอด ปัจจุบันบริษัทได้ยื่นฟ้องเรียกชำระหนี้จาก MIHL ต่อศาลแพ่งของสหภาพพม่า ซึ่ง ในระหว่างที่บริษัทได้ฟ้องร้องเรียกชำระหนี้ค่าก่อสร้างจาก MIHL การถือหุ้นอยู่จะมีข้อขัดแย้งในกรณีที่ MIHL กล่าวอ้างว่าบริษัทเป็นผู้ ถือหุ้นรายใหญ่ที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากกิจการด้วย จึงควรที่จะขายเงินลงทุนใน MIHL ออกไปเพื่อให้หลุดพ้นจากข้อต่อสู้ของ MIHL และหากผลของคดีถึงที่สุดบริษัทก็จะสามารถได้รับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้การค้าได้ในอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับบริษัท มากกว่าการถือครองหุ้นต่อเนื่องไปจนกว่าจะทราบผลการตัดสินของศาลจึงเห็นควรให้ดำเนินการขายหุ้น MIHL ได้