หุ้น TIPCO ราคาร่วงลง 7.56% มาอยู่ที่ 4.40 บาท ลดลง 0.36 บาท มูลค่าซื้อขาย 9.22 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.00 น. โดยเปิดตลาดที่ 4.44 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 4.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 4.32 บาท
บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย)หรือ TIPCO และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/53 ขาดทุนสุทธิ 5.12 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.0106 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 56.6 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.1173 บาท
พร้อมชี้แจงว่า ยอดขายและกำไรในไตรมาสนี้เท่ากับ 1,095.8 ล้านบาท และ -5.1 ล้านบาท ตามลำดับ ยอดขายและกำไรสุทธิ 9 เดือนของปี 2553 เท่ากับ 3,480.4 ล้านบาท และ 166.1 ล้านบาท ตามลำดับ
ไตรมาสนี้ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเติบโตของยอดขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ธุรกิจค้าปลีกและการส่งออกน้ำสับปะรดเข้มข้น ผลิตภัณฑ์ใหม่-ทิปโก้เอสเซนต์ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ธุรกิจส่งออกมีอัตราการเติบโตเพียงร้อยละ 1.9 แต่มีผลขาดทุน ซึ่งเป็นกระทบจากจากการแข็งค่าของเงินบาท ต้นทุนผลไม้ที่สูงและสภาวะแห้งแล้ง สภาวะดังกล่าวทำให้ผลไม้ขาดแคลนและคุณภาพด้อยลง นอกจากนี้ บริษัทบันทึกกำไรจากเงินลงทุนในบมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ ในไตรมาสนี้เท่ากับ 50.3 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 4/2553 บริษัทคาดการณ์ว่าธุรกิจเครื่องดื่มทั้งในประเทศและตลาดอาเซียนจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โรงงานของบริษัททุกแห่งปลอดภัยจากภาวะน้ำท่วมและไม่มีน้ำท่วมในแหล่งเพาะปลูกสับปะรดใกล้ ๆ โรงงานที่จังหวัดประจวบคีรีขันธุ์ และยังคาดการณ์ว่าปริมาณและคุณภาพของผลสับปะรดสดจะเป็นไปตามแผนการผลิตในไตรมาส 4
อย่างไรก็ตามธุรกิจส่งออกสับปะรดยังเผชิญปัญหาต่อเนื่อง จากความต้องการสินค้าที่ลดลงและการแข็งค่าของค่าเงินบาท ความเสี่ยงทางธุรกิจภายนอกมีการควบคุม และประเมินอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะความเสี่ยงด้านการเมืองในประเทศ การให้สินเชื่อแก่ลูกค้าและภัยธรรมชาติ
สำหรับการปรับปรุงภายใน บริษัทยังคงปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคตลอดจนถึงการบริหารห่วงโซ่อุปทาน อีกทั้งบริษัทยังคงมุ่งเน้นโครงการปรับปรุงเพื่อลดต้นทุน และพัฒนาศักยภาพของพนักงาน