นายชเนศร์ เพ็ญชาติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.จุฑานาวี(JUTHA)คาดว่ารายได้ในปี 53 จะใกล้เคียงที่ 400 ล้านบาทตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ และปีนี้จะพลิกฟื้นเป็นกำไรสุทธิได้ จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน
โดยช่วง 9 เดือนบริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 105 ล้านบาท เป็นกำไรจากการดำเนินงาน 11 ล้านบาท และเป็นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 94 ล้านบาท ขณะที่รายได้ช่วง 9 เดือน มีจำนวน 288 ล้านบาท
ส่วนในไตรมาส 4/53 คาดว่าจะมีรายได้และกำไรใกล้เคียงไตรมาส 3/53 เนื่องจากประเมินว่าอัตราค่าระวางเรือจะอยู่ใกล้เคียงไตรมาส 3/53 ที่อยู่ในระดับ 6,562 ดอลลาร์สหรัฐ/วัน/ลำ โดยมองว่าตลาดเดินเรือช่วงนี้ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4/53 จะมีเรือเข้าอู่ซ่อม 1 ลำ มีระยะเวลา 7-10 วัน ซึ่งจะทำให้รายได้ส่วนหนึ่งหายไป
ค่าระวางเรือทั้งปี 53 คาดว่าอยู่ในระดับกว่า 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ/วัน/ลำ โดยสถานการณ์ธุรกิจเดินเรือในปีนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก และแนวโน้มธุรกิจขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป ขณะนี้ดัชนี BDI อยู่ที่ 2,400 จุด
ดังนั้น บริษัทจึงต้องควบคุมค่าใช้จ่ายเพื่อให้มีอัตรากำไร(มาร์จิ้น)ดีขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทหันมารับจ้างบริหารจัดการเรือมากขึ้น โดยขณะนี้ได้รับจ้างบริหารจัดการเรือเพิ่มอีก 5 ลำ จากปัจจุบันมี 10 ลำ โดยจะเริ่มทยอยเข้าบริหารภายใน ธ.ค.53 จึงคาดว่าในปี 54 รายได้ของบริษัทจะเพิ่มเป็น 500 ล้านบาท เป็นรายได้จากการบริหารเรือ 45 ล้านบาท สูงกว่าปีนี้ที่มีรายได้จากการบริหารเรือ 30 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าสิ้นปี 53 เงินบาทอยู่ที่ 29 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะทำให้ปีนี้บริษัทได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าจากที่ประเมินต้นปีเงินบาทอยู่ที่ 32 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากรับรู้รายได้เป็นเงินสกุลดอลลาร์ 100% และกระทบต่อเนื่องไปถึงผลกำไรด้วย แต่ขณะเดียวกันบริษัทมีหนี้สินที่เป็นสกุลดอลลาร์ 30 ล้านดอลลาร์ ทำให้ในที่สุดพลิกมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
"วันนี้ธุรกิจเดินเรือฟื้นตัว แต่ยังดีไม่เหมือนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ก็จะเริ่มรีบาวด์...กำไรปีนี้ผิดเป้าหมาย แต่ไม่มาก เป็นเพราะเรื่องของบาทแข็ง แต่คิดว่าปีหน้าผลประกอบการจะดีกว่าปีนี้"นายชเนศร์ กล่าว