“พรีบิลท์"ยันมาตรการจำกัดวงเงินสินเชื่อ"แบงก์ชาติ" ไม่กระทบยอดขาย “เดอะ เทมโป" กำหนดดาวน์ไว้แล้วที่ประมาณ 20% ผลประกอบการไตรมาสสามฉลุย คาดทั้งปีเข้าเป้า เผย เตรียมทยอยโอน "เดอะ เทมโป ร่วมฤดี" ก่อนกำหนด 3-4 เดือน
นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พรีบิลท์ (PREB) เปิดเผยว่า มาตรการการควบคุมสัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะนำมาบังคับใช้กับอาคารแนวสูงในต้นปี 2554 จะไม่ส่งผลกระทบต่อ ยอดขายคอนโดมิเนียม เดอะ เทมโป ร่วมฤดี และคอนโดมิเนียม เดอะ เทมโป พหลโยธิน เนื่องจากทั้งสองโครงการกำหนดวงเงินดาวน์ขั้นต่ำไว้ที่ประมาณ 20% ของมูลค่าหลักประกัน
“มาตรการที่แบงก์ชาติ เพิ่งประกาศเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์จะต้องกำหนดวงเงินให้สินเชื่อได้ไม่เกิน 90% ของมูลค่าหลักประกัน ไม่ส่งผลกระทบธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ ทั้งสองโครงการคือ เดอะ เทมโป ร่วมฤดี และเดอะ เทมโป พหลโยธิน เนื่องจากเรากำหนดให้ลูกค้าผ่อนชำระเงินดาวน์ในสัดส่วนที่สูงกว่าที่แบงก์ชาติกำหนด" นายชัยรัตน์ กล่าว
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาสที่สามของปี 2553 บริษัทยังคงขยายตัวต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งในส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นและอัตราทำกำไร ซึ่งมาจากการรับงานที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการบริหารต้นทุนที่ดีของบริษัท
สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่สามของปี 2553 บริษัทมีรายได้รวม 539.9 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 16.77 ล้านบาท หรือมีกำไร 3.11% เทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปี 2552 ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 452.4 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 7.29 ล้านบาท หรือมีกำไร 1.61%
ในช่วง 9 เดือนของปี 2553 มีรายได้รวม 1,385 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 41.52 ล้านบาท หรือ 3% และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯมีรายได้รวม 1,264 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 15.06 ล้านบาท หรือ 1.19% และคาดว่าผลประกอบการทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1,700 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯวางเป้าหมายยอดขายโครงการเดอะ เทมโป ร่วมฤดี ว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในเดือนธันวาคม 2553 ซึ่งขณะนี้จำหน่ายได้แล้วคิดเป็น 90%.หรือจำนวน 70 ห้อง สำหรับยอดขาย เดอะเทมโป พหลโยธิน สามารถขายได้แล้ว 65% ของพื้นที่จำหน่ายทั้งหมด และสามารถปิดการขายได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2554
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯยังคาดว่า คอนโดเดอะ เทมโป ร่วมฤดี จะสามารถสร้างเสร็จก่อนกำหนดประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งแต่เดิมคาดว่าจะสามารถสร้างเสร็จได้ภายในกลางปี 2554 แต่จะสามารถเริ่มทยอยโอนให้กับลูกค้าได้ภายในสิ้นปีนี้ และส่งผลโดยตรงต่อการทยอยรับรู้รายได้ในปี 2553 อีกทางหนึ่งด้วย