BWG มั่นใจปี 53 พลิกเป็นกำไร จากขาดทุน 43 ลบ.ปี 52 ธุรกิจฟื้นตามศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 16, 2010 14:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน(BWG)เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ขยายตัวเกิน 15% จากปีก่อนที่ทำได้ 592.05 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถพลิกผลประกอบการจากขาดทุนสุทธิ 43 ล้านบาท มาเป็นกำไรอย่างแน่นอน หลังจาก 3 ไตรมาสพลิกเป็นกำไรแล้วกว่า 22 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มธุรกิจยังเติบโตต่อเนื่อง

แนวโน้มผลประกอบการในปี 53 มีทิศทางเติบโตจากปีก่อนอย่างโดดเด่น หลังจากที่ได้รับปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มนิ่ง ส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมต่างๆ เริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้กากอุตสาหกรรมมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจึงส่งผลบวกต่อบริษัทฯ ผู้ประกอบธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมด้วย

นอกจากนั้น บริษัท อัคคีปราการ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยประกอบกิจการให้บริการเผาทำลายขยะ สิ่งปฏิกูลและวัสดุที่ไม่ใช้แล้วทุกชนิด รวมถึง การให้บริการปรับคุณภาพของเสีย สิ่งปฏิกูล และวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อเป็นพลังงานทดแทนหรือวัตถุดิบทดแทน เริ่มมีผลประกอบการเป็นกำไรตั้งแต่ไตรมาส 4/52 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาส 3/53 ดังนั้น บริษัทฯ จึงคาดว่าในปีนี้มีโอกาสพลิกผลประกอบการมาเป็นกำไรได้สำเร็จดังกล่าว

“ภาพรวมธุรกิจขณะนี้ยังดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากการเมืองนิ่ง ซึ่งเป็นผลบวกจากเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัวและอุตสาหกรรมต่างๆ ดีขึ้น ทำให้บริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจปลายน้ำ เมื่อโรงงานอุตสาหกรรมดีขึ้น มีกากอุตสาหกรรมมากขึ้น บริษัทฯก็ได้รับผลดีด้วย ที่สำคัญบริษัทลูกเริ่มมีกำไรชัดเจนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปีนี้จึงมีโอกาสที่บริษัทฯ จะมีผลประกอบการพลิกเป็นบวกได้ และในฐานะที่เป็นผู้บริหารก็พร้อมจะเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยความโปร่งใสและได้มาตรฐาน เพื่อผลประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ประชาชน และเพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกคน ซึ่งขณะนี้ก็เดินหน้าหาลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยื่นในระยะยาว"

BWG รายงานผลประกอบการงวด 3 เดือนประจำไตรมาส 3/53 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.53 ในงบการเงินรวมว่ามีกำไรสุทธิ 13.54 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.04 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 188.26 จากขาดทุน 15.34 ล้านบาท หรือ ขาดทุนหุ้นละ 0.05 บาท ส่งผลให้งวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 22.33 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.07 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 34.84 ล้านบาท หรือขาดทุนหุ้นละ 0.11 บาท

สำหรับผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่า โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการจัดกากอุตสาหกรรม 166.47 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปี 52 ที่มีรายได้ 114.34 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 และมียอดสะสม 9 เดือน สิ้นสุดไตรมาส 3/53 จำนวน 451.72 ล้านบาท จาก 322.77 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 เนื่องจากปีนี้ไม่มีปัญหาสภาวะเศรษฐกิจเหมือนปี 52 ทำให้ธุรกิจอุตสาหกรรมมีการผลิตมากขึ้น ส่งผลให้กากอุตสาหกรรมมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น

ส่วนรายได้จากงานก่อสร้างในไตรมาส 3/53 อยู่ที่ 22.44 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 32.01 ล้านบาท ส่วนงวดสะสม 9 เดือน มีรายได้จากงานก่อสร้างอยู่ที่ 64.60 ล้านบาท จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 111.57 ล้านบาท ทำให้รายได้จากการบริการและก่อสร้างในไตรมาสที่ 3/2553 อยู่ที่ 188.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเท่ากับร้อยละ 29.08 ซึ่งอยู่ที่ 146.35 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนอยู่ที่ 515.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.76 จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 434.34 ล้านบาท

ขณะที่ต้นทุนของบริษัทฯ ได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ โดยต้นทุนจากการให้บริการจัดกากอุตสาหกรรม สำหรับไตรมาส 3/53 จำนวน 113.70 ล้านบาท จาก 100.90 ล้านบาทในไตรมาส 3/52 คิดเป็นอัตราร้อยละ 68 และ 88 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมียอดสะสม 9 เดือนปี 53 จำนวน 321.05 ล้านบาท จาก 265.46 ล้านบาทในช่วงเดยวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 71 และ 82 ตามลำดับ เนื่องจากต้นทุนบางส่วนเป็นต้นทุนคงที่ไม่ได้ผันแปรตามสัดส่วนรายได้ และต้นทุนบางส่วนที่ลดลงเนื่องจากการบริหารจัดการที่ดี

ต้นทุนจากงานก่อสร้างไตรมาส 3/53 อยู่ที่ 19.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 27.88 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 88 และ 87 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมียอดสะสม 9 เดือนปี 53 จำนวน 56.37 ล้านบาท จาก 98.30 ล้านบาทช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราร้อยละ 87 และ 88 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเป็นการรับรู้รายได้ตามวิธีอัตราส่วนงานที่ทำเสร็จ ส่งผลให้ต้นทุนรวมบริการและก่อสร้างในไตรมาสที่ 3/53 อยู่ที่133.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 3.57 จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 128.78 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนมีต้นทุนรวมบริการและก่อสร้างที่ 377.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.75 จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 363.76 ล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ