นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.เคมีคอล(PTTCH) คาดว่า ยอดขายในปี 54 จะเติบโตราว 60-70% จากปีนี้ที่ยอดขายได้เกือบ 1 แสนล้านบาท เนื่องจากในปีหน้าบริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ โรงแครกเกอร์ 1 ล้านตัน และปริมาณการผลิต LLDPE-LDPE เพิ่มขึ้นอย่างละ 3 แสนตัน/ปี รวมถึงมีกำลังการผลิตเอทิลีนเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 แสนตัน/ปี รวมแล้วจะทำให้ปริมาณการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้นในส่วนของโอเลฟินส์เป็น 2.8 ล้านตัน และเม็ดพลาสติกเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านตัน
บริษัทคาดว่าปีหน้าจะเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่ทุกสายการผลิต หลังจากโรงแยกก๊าซ 6 ของบมจ.ปตท.(PTT) เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ช่วงต้นปี 54 โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 90% จากปีนี้อยู่ที่ 60-70%
"ไตรมาส 4 ปีนี้คาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 3 เราไตรมาส 3 ถือว่าเป็นจุดต่ำสุดทั้งในเรื่องของราคา และ capacity เพราะไตรมาส 3 มีการ shut down โรง I4-1 เป็นเวลา 41 วัน และ TOCGC เป็นเวลา 18 วัน ทำให้กำลังการผลิตบางส่วนหายไป" นายวีรศักดิ์ กล่าว
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 54 บริษัทมีแผนปิดซ่อมบำรุงหน่วยผลิตของ I1-Oleflex ระยะเวลา 40 วัน, I4-2 ระยะเวลา 48 วัน , TOGCG ระยะเวลา 31 วัน, LDPE ระยะเวลา 110 วัน และ BPE ระยะเวลา 25 วัน จากนั้นในครึ่งปีหลังจะมีการปิดซ่อมบำรุง TTPE-cracker ระยะเวลา 40 วัน , LLDPE ระยะเวลา 25 วัน
ทางบริษัทมองว่าในปีหน้าราคาผลิตภัณฑ์จะใกล้เคียงกับปีนี้ และคาดว่าวัฎจักรของธุรกิจปิโตรเคมีจะกลับมาดีอีกครั้งในปี 55-56 ดังนั้นการปิดซ่อมบำรุงในปีหน้า ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับบริษัทในการองรับวัฎจักรขาขึ้น
สำหรับราคาส่วนต่างผลิตภัณฑ์(สเปรด)ในปี 54 คาดว่าสเปรดของ HDPE จะอยู่ที่ 245 เหรียญ/ตัน จากสเปรดปีนี้ที่ 155 เหรียญ/ตัน, LDPE สเปรดน่าจะอยู่ที่ 339 เหรียญ/ตัน จากปีนี้ 371 เหรียญ/ตัน , LLDPE อยู่ที่ 240 เหรียญ/ตัน จากปีนี้ที่ 213 เหรียญ/ตัน
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนแผนการลงทุนซื้อกิจการเพิ่มเติม เนื่องจากจะต้องมีความรอบคอบเพิ่มขึ้น และต้องการธุรกิจที่มาช่วยต่อยอดกับสายผลิตภัณฑ์เดิม โดยยังคงสนใจธุรกิจปิโตรเคมีเกรดพิเศษ คาดว่าจะได้ข้อสรุปและความชัดเจนในปีหน้า จากเดิมที่คาดว่าจะสรุปได้ 1 รายภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในอนาคต แต่บริษัทก็ยืนยันที่จะจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอภายใต้นโยบายจ่ายไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ ซึ่งที่ผ่านมาก็จ่ายในระดับ 40% เศษอยู่แล้ว
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า อนาคตของการควบรวมกิจการระหว่าง PTTAR และ PTTCH ตามที่มีกระแสข่าวนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและยังไม่มีข้อสรุป แต่ที่ผ่านมาทั้ง 2 บริษัทมีความร่วมมือในตัววัตถุดิบร่วมกัน รวมถึงมีการลงทุนในบริษัท ปตท.ฟีนอล ถือว่าได้ทำประโยชน์ร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง