นายบวร วงศ์สินอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR)กล่าวว่า ในปี 54 เบื้องต้นบริษัทมีแผนศึกษาที่จะปรับปรุงคุณภาพการผลิตพาราไซลีน (โรงงาน AR2,AR3) ซึ่งคาดว่าจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นโรงละ 10% และมีผลตอบแทนเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้ามาจะมีคุณภาพและขายได้ในราคาที่ดีกว่าผลิตภัณฑ์เดิม
ทั้งนี้ การปรับปรุงคุณภาพโรง AR2 คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 54 ส่วน AR3 คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นปี 55 โดยทั้งสองโรงงานใช้งบลงทุนไม่มากเนื่องจากเป็นการปรับปรุงคุณภาพเท่านั้น
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนในการลงทุนเพื่อต่อยอดในผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ โดยสนใจธุรกิจปิโตรเคมีด้านสายการผลิตไนล่อน ซึ่งคาดว่าประมาณกลางปี 54 จะได้ข้อสรุปในการลงทุน
"ตอนนี้ บริษัทมีแผนการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ แต่ยังไม่ได้นำเสนอบอร์ด ซึ่งกลางปีหน้าน่าจะมีหลายเรื่องที่ PTTAR ทำเพิ่มเติม" นายบวร กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่สนใจเข้าลงทุนในธุรกิจ PET และ PTA เนื่องจากทั้งสองธุรกิจมีความเสี่ยงมากเกินไป และมีผู้ผลิตรายใหญ่ที่ครองตลาดโลกอยู่แล้ว
นายบวร กล่าวว่า ปี 54 เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโต โดยเฉพาะประเทศจีน อินเดีย กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งความต้องการใข้น้ำมันน่าจะปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งราคาน้ำมันน่าจะยังคงอยู่ในระดับสูง
นายบวร กล่าวอีกว่า คาดรายได้ในไตรมาส 4/53 สูงกว่าไตรมาส 3/53 เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์หลัก อย่างพาราไซลีนยังมีราคาขายสูงต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ที่ 1,300 เหรียญ/ตัน มีสเปรด 500 เหรียญ/ตัน และราคาเบนซีน ราคาขายใกล้ 1,000 เหรียญ/ตัน และเมีสเปรดประมาณ 250 เหรียญ/ตัน ถือว่าอยุ่ในระดับที่น่าพอใจ
เนื่องจากขณะนี้ความต้องการในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่กำลังการผลิตหายไป จากประเทศอิหร่าน เนื่องจากการถูกแซงชั่น จากสหรัฐและยุโรป ทำให้กำลังการผลิตหายไปจากตลาดโลก โดยคาดว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะยังยืดเยื้อต่อไปจนถึงไตรมาส 1/54 แต่สถานการณ์ในไตรมาส 2-3 ในปี 54 ยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากจะมีกำลังการผลิตใหม่จากจีนและโปแลนด์เข้ามาในตลาดโลก ยังไม่นับรวมจากประเทศอินเดียที่ยังไม่ชัดเจนว่ากำลังการผลิตใหม่จะเข้ามาเมื่อใด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาพาราไซลีนยังมีราคาดีต่อเนื่องไปในไตรมาส 1/54 แต่บริษัทมีแผนปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น ระยะเวลา 41 วันในเดือนก.พ. 54 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ในไตรมาส 1/54 จึงคาดว่ารายได้จะน้อยกว่าในไตรมาส 1/53 แต่หลังการปรับปรุงคุณภาพโรงกลั่นแล้ว เชื่อว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพเพิ่มขึ้นและมีราคาดีขึ้น เนื่องจากสามารถใช้วัตถุดิบที่มีราคาต่ำกว่าเดิม