ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกกับข่าวรัฐบาลไอร์แลนด์อาจต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากสหภาพยุโรป รวมทั้งความกังวลที่ว่าธนาคารกลางจีนอาจใช้มาตรการคุมเข้มด้านการเงินที่รวมถึงการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อภายในประเทศ
ดัชนี FTSE 100 ดิ่งลง 138.51 จุด หรือ 2.38% ปิดที่ 5,681.90 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,680.87 - 5,820.43 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางจีนอาจใช้มาตรการคุมเข้มด้านการเงิน หลังดัชนี CPI เดือนต.ค.พุ่งขึ้น 4.4% ทำสถิติพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบปีนี้ ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้ฉุดตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงด้วย
ทั้งนี้ หุ้นคาซัคมิส ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่สุดของคาซัคสถาน ปิดร่วง 6.1% หุ้นเอ็กสตราต้า ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ปิดร่วง 5.1% และหุ้นอันโตฟากัสต้า ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ของชิลี ปิดลบ 5.5%
กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปและไอร์แลนด์ได้ฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นธนาคารลอยด์ ปิดลบ 4.7% หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดร่วง 2.5% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ปิดร่วง 3.1%
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 3.2% จากระดับ 3.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ธนาคารกลางอังกฤษกำหนดไว้ที่ 2%