นายสมชัย ว่องอรุณ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.สตาร์ ซานิทารีแวร์(STAR)เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังเดินหน้ารุกตลาดส่งออกต่อเนื่อง โดยตลาดส่งออกหลักยังเน้นประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และบริษัทฯ ยังขยายฐานลูกค้าใหม่ไปในประเทศแถบตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และรัสเซีย เนื่องจากมองว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพ และมีความสนใจสินค้าสุขภัณฑ์ของบริษัทฯ อยู่แล้ว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าในต่างประเทศดังกล่าวข้างต้น และคาดว่ามีความชัดเจนเร็วๆ นี้
แนวโน้มธุรกิจของบริษัทฯยังเติบโตในทิศทางที่ดีต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยในส่วนของตลาดในประเทศมีการขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด หลังจากเกิดวิกฤตน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ความต้องการซ่อมแซมสินค้า ด้านสุขภัณฑ์ในอาคารสำนักงาน และที่อยู่อาศัยต่างๆ อยู่ในระดับสูง บริษัทฯ จึงมีแผนรุกตลาดในประเทศมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่ขยายตัว โดยคาดว่าในปี 54 จะปรับสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าสุขภัณฑ์ภายในประเทศเพิ่มเป็นร้อยละ 50 จากปัจจุบันมีสัดส่วนร้อยละ35
“ภาพรวมตลาดของสินค้าสุขภัณฑ์ยังเติบโตอยู่มาก โดยปีหน้าความต้องการสินค้าสุขภัณฑ์ในประเทศน่าจะขยายตัวมากกว่าต่างประเทศ จากปัญหาน้ำท่วม เพราะหลังวิกฤตน้ำท่วมลดลง ประชาชนต้องซ่อมแซมบ้านเรือน สินค้าสุขภัณฑ์ก็น่าจะได้อานิสงส์ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯ เองต้องพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพที่ดีได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของลูกค้าต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกยังไปได้ดี แม้ค่าเงินบาทจะแข็งค่า แต่บริษัทฯ ได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับลูกค้าไว้แล้วเป็นเวลา 6 เดือน"นายสมชัย กล่าว
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/53 บริษัทฯ มีรายได้รวม 52.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.49 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.94 จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ 50.28 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3.87 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้น 0.02 บาท
ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม — กันยายน 2553) บริษัทฯ มีรายได้รวม 148.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.47 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 146.78 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 5.05 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้น 0.03 บาท
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/53 มีโอกาสเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/53 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลขายของสินค้า (High Season) ประกอบกับบริษัทฯ เตรียมออกสินค้าสุขภัณฑ์รุ่นใหม่ประมาณ 10 รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเพิ่มความหลากหลายของสินค้าบริษัทฯ ให้มีความทันสมัยมากขึ้น
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้ปี 53 จะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยเติบโต 10—15% จาก 206.42 ล้าน บาทในปีก่อน