นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ. แอสเซท พลัส เปิดเผยว่า บริษัทได้ เสนอขาย IPO กองทุนเปิดแอสเซทพลัสไทยฟิกซ์ 4/3M (ASP-THFIXED4/3M) ระยะเวลาการลงทุนสั้นประมาณ 3 เดือน
กองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนไทยที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง กระแสเงินสดสูง เช่น บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) บมจ.ภัทรลิสซิ่ง (PL) บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJANA) บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (ASK) และบมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ (AP) โดยให้โอกาสผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุน ประมาณ 1.66% ต่อปี เปิดขายตั้งแต่ วันนี้-23 พ.ย.53
สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วนัก เนื่องจากค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง และระดับอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยล่าสุด เดือน ต.ค. อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 2.8% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.1% ซึ่งต่ำกว่ากรอบการควบคุมอัตราเงินเฟ้อเป้าหมาย ที่ 0.5-3% โดยคาดว่า ธปท. น่าจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2% ในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามทิศทางการปรับตัวของราคาน้ำมันโลก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกับอัตราเงินเฟ้อ โดยปัจจุบันราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นจนใกล้ระดับ 90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทั้งนี้ ในช่วงสั้นคาดว่าไม่น่าจะกระทบกับอัตราเงินเฟ้อมากนัก เนื่องจากได้รับอานิสงค์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ปัจจัยด้านราคาสินค้าเกษตรที่น่าจะปรับตัวขึ้นจากผลกระทบด้านนำท่วมอาจจะผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นในช่วงสั้นได้
ในแง่ของการลงทุนในตราสารหนี้ช่วงนี้ บริษัทฯ ยังคงให้แนะนำลงทุนช่วงเวลาสั้นๆ 3-6 เดือน เพื่อไม่ให้เสียโอกาสผลตอบแทนจากแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า