หุ้น VNT และ TPC ราคาปรับตัวสูงขึ้น โดยเมื่อเวลา 11.09 น.หุ้น VNT อยู่ที่ 14.20 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท (+7.58%)มูลค่าซื้อขาย 125.28 ล้านบาท
ส่วนหุ้น TPC อยู่ที่ 23.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท(+3.08%)มูลค่าซื้อขาย 15.09 ล้านบาท
บล.เอเชียพลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า กลุ่มปิโตรเคมีสาย PVC คือ บมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์(TPC), บมจ.วีนิไทย(VNT)โดดเด่น หลัง Spread PVC ทำระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน
พบว่าราคา PVC ล่าสุดปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1 พันเหรียญฯ/ตันอีกครั้งในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ราคาวัตถุดิบขั้นต้นซึ่งได้แก่ เอทิลีนล่าสุดเท่ากับ 995 เหรียญฯ/ตัน เริ่มกระเตื้องขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ลดลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 98 เหรียญฯ/ตัน (ผลจากโรงงาน ระยองโอเลฟินส์หรือ ROC ของกลุ่ม SCG ที่มีกำหนดปิดซ่อมบำรุงใหญ่นาน 45 วันตั้งแต่ช่วงกลางเดือน พ.ย.53 ส่งผลให้ Spread ของราคา PVC-เอทิลีน (เป็น Spread อ้างอิงของ VNT ซึ่งใช้เอทิลีนเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต PVC) ปรับตัวขึ้นมาที่ 503 เหรียญฯ/ตัน
ขณะที่ Spread ของราคา PVC-EDC (เป็น Spread อ้างอิงของ TPC ซึ่งใช้ EDC หรือ Ethylene Di-chloride ซึ่งเป็นวัตถุดิบขั้นกลางเป็นหลักในการผลิต PVC) ปรับตัวขึ้นมาที่ 563 เหรียญฯ/ตัน ทำระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ดังกล่าวถือว่าส่งผลบวกต่อแนวโน้มกำไรสุทธิใน 4Q53 ของทั้ง TPC และ VNT อย่างมาก
แนวโน้มราคา PVC คาดว่ายังเป็นไปในทิศทางบวก เนื่องจากปํญหาเรื่องของ Supply ที่ขาดแคลนมากขึ้นในภูมิภาค จากการดำเนินมาตรการประหยัดพลังงานที่เข้มงวดของจีน อีกทั้งประเด็นเรื่อง Cost push จากราคาเอทิลีนที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นดังกล่าว