นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับ กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์ (อีทีเอฟไชน่า) ที่อ้างอิงกับราคาหลักทรัพย์ต่างประเทศกองแรกของไทยเข้าซื้อขายในหมวดธุรกิจหน่วยลงทุนของอีทีเอฟ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.53 เป็นต้นไป ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “CHINA"
โดยกองทุนอีทีเอฟไชน่า เป็นอีทีเอฟที่ลงทุนในกองทุนรวม W.I.S.E — CSI 300 China Tracker ซึ่งมุ่งสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงดัชนี CSI 300 ที่ประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 300 บริษัท ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเซิ่นเจิ้น
“อีทีเอฟไชน่า เป็นสินค้าแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นต่างประเทศสามารถซื้อขายได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โดยใช้ช่องทางการซื้อขายหุ้นในปัจจุบัน นับเป็นการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามนโยบายของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการร่วมมือกับบริษัทจัดการลงทุนเพื่อส่งเสริมให้มีอีทีเอฟเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกการลงทุนที่หลากหลาย เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศที่อีทีเอฟได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากความสะดวกในการลงทุนและการกระจายประเภทสินทรัพย์เพื่อการลงทุน" นายจรัมพรกล่าว
นายสมชัย บุญนำสิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า อีทีเอฟไชน่า เป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัท และบริษัทจัดการลงทุนที่เป็นที่ยอมรับด้วยประสบการณ์ในการบริหารกองทุนอีทีเอฟ โดยผู้บริหารจัดการกองทุนหลัก ได้แก่ บริษัท บีโอซีไอ-พรูเด็นเชียล แอสเส็ท แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งได้รับรางวัล “Best China A-Shares Award" ประจำปี 2553 จากนิตยสาร Asian Investor ส่วนที่ปรึกษากองทุน ได้แก่ บริษัท โพลาริส อินเตอร์เนชั่นแนล ซิเคียวริตี้ส์ อินเวสเมนท์ ทรัสต์ จำกัด ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในตลาดทุนของประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน และได้รับรางวัล “ETF Performance Award — Asia" จากนิตยสาร Asian Investor และ “ETF Manager of the Year — Asia" จากนิตยสาร Asia Asset Management Magazine ในปี 52
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่ากองทุน อีทีเอฟไชน่า เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้รับประโยชน์จากการลงทุนในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่และมีอัตราการเจริญเติบโตสูงประเทศหนึ่งของโลก กองทุนดังกล่าวจะเป็นประตูให้ผู้ลงทุนไทยสามารถรับผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของกองทุนหลักที่สะท้อนดัชนีราคาหุ้นในประเทศจีน
อีทีเอฟไชน่า บริหารจัดการโดย บลจ. กรุงไทย โดยมี บล. ภัทร เป็นผู้ร่วมค้าหน่วยและผู้ดูแลสภาพคล่อง ผู้ร่วมค้าหน่วยรายอื่น ได้แก่ บล.เอเซีย พลัส บล. บัวหลวง บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) และ บล. เคที ซิมิโก้ จำกัด ผู้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาการลงทุน ได้แก่ บริษัทโพลาริส อินเตอร์เนชั่นแนล ซิเคียวริตี้ส์ อินเวสเมนท์ ทรัสต์ จำกัด และมี บ. ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นนายทะเบียน