นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขยายธุรกิจด้านพลังงานทดแทนต่อเนื่องในปีหน้า โดยช่วงกลางปี 54 จะมีการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์(โซลาร์เซลล์)แห่งใหม่ขนาด 32 เมกะวัตต์ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 3 พันล้านบาทไม่รวมค่าที่ดิน ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี คาดว่าจะสร้าง EBITDA เพิ่มขึ้นกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามาเต็มที่ในปี 56
อนึ่ง โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์แห่งแรกขนาด 38 เมกะวัตต์ ที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค.54
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ในปีต่อ ๆ ไป บริษัทมีแผนจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เพิ่มเติมให้ครบ 120 เมกะวัตต์ตามเป้าหมายโดย ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาที่ดินใน 2 จังหวัด ซึ่งจะทำการคัดเลือกที่ตั้งที่เหมาะสมต่อไป โดยเงินลงทุนจะมาจากเงินกู้ส่วนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้มีสถาบันการเงินหลายรายเข้ามาเสนอตัวให้กู้แล้ว
"โรงไฟฟ้าขนาด 32 เมกะวัตต์ตอนนี้เรากำลังดูที่อยู่ ก็คาดว่าน่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 56 ส่วนที่เหลืออีก 50 เมกะวัตต์ เราก็จะทำต่อไปให้ครบ 120 เมกะวัตต์"นายอนุสรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าหากดำเนินการได้ครบ 120 เมกะวัตต์ จะสร้าง EBITDA ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้น 2.1 พันล้านบาท/ปี
สำหรับการเจรจาเข้าถือหุ้นในโรงงานเอทานอลนั้น นายอนุสรณ์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปต้นปี 54 โดย BCP จะเข้าถือหุ้นประมาณ 20-40% โดยจะใช้งบลงทุนไม่เกิน 2 พันล้านบาท ซึ่งหากการเจรจาบรรลุผลสำเร็จ ก็จะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 2 แสนลิตร/วัน เป็น 4 แสนลิตร/วัน
"แผนงานของบริษัทจะเน้นพลังงานทดแทนมากขึ้น เพื่อเป็นการลดการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจโรงกลั่นที่ราคาน้ำมันมีความผันผวน"นายอนุสรณ์ กล่าว
นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมขยายปั๊มแก๊สโซฮอล์อี 20 จากปัจจุบัน 280 แห่ง ให้เป็น 300 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ส่วนปั๊มแก๊สโซฮอล์อี 85 ขยายเป็น 5 แห่งในสิ้นปีนี้ และในปี 54 จะเปิดเพิ่มอีก 10 แห่งทั้งกทม.และต่างจังหวัด ใช้เงินลงทุนแห่งละ 2 ล้านบาท