นายโรฮิท วาฮิททรา กรรมการผู้จัดการ บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) (PTL) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างตัดสินใจขยายการลงทุนในการขยายกำลังการผลิต ระหว่าง แผ่นฟิล์ม PETชนิดบาง (Thin PET Film) หรือลงทุนการผลิตแผ่นฟิล์ม PET ชนิดหนา(Thick PET Film) โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 50- 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
เนื่องจากความต้องการแผ่นฟิล์ม PET ยังเติบโต โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าปีนี้ความต้องการในประเทศจะเพิ่มขึ้น 8-10% และกำลังการผลิตแผ่นฟิล์ม PETชนิดบางของบริษัทเต็มแล้ว หรือใช้กำลังการผลิต 99% กำลังการผลิตที่มีอยู่ 4.2 หมื่นตันต่อปี โดยหากบริษัทมีการตัดสินใจสรุปการลงทุนจะใช้เวลาดำเนินการอีก 2 ปี กว่าจะเริ่มทำการผลิตได้
"เราจะสรุปการลงทุนใน 1-2 เดือนข้างหน้าว่าจะลงทุน Thin Film หรือ Thick Film เราลงทุนแน่ เท่าที่ดูมีโอกาสลงทุนสูงในประเทศไทย"กรรมการผู้จัดการ PTL กล่าว
นอกจากนั้น บริษัทจะขยายสายการผลิตแผ่นฟิล์ม CPP ซึ่งใช้ในการบรรจุภัณฑ์ โดยคาดจะใช้เงินลงทุน 20-25 ล้านเหรียญสหรัฐ เริ่มดำเนินการได้ ม.ค.54 โดยใช้เวลา 1 ปี
นายวาฮิททรา คาดว่า กำลังการผลิตแผ่นฟิล์มทั่วโลกจะยังขาดแคลนต่อเนื่องจากปีนี้ไปถึงปี 54 และจะกลับมามีกำลังการผลิตล้นตลาดในปี 55 แต่จะมีดีมานด์-ซัพพลายเข้าสู่สมดุลในปี 56
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตแผ่นฟิล์มสายซิลิโคนที่ใช้เงินลงทุน 19.44 ล้านเหรียญ โดยมีกำลังการผลิต 200-600 ล้าน ตรม.คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในครึ่งแรกของงวดปี 54/55 ขณะที่ในตุรกี บริษัทได้ขยายการผลิตแผ่นฟิล์ม PET ชนิดบาง อีก 3.1 หมื่นตัน/ปี จากที่มีอยู่ 5.8 หมื่นตัน/ปี ใช้งบลงทุน 79 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 4 ของงวดปี 53/54
PTL มีโรงงานใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย ตุรกี และอินเดีย และบริษัทตัวแทนจำหน่ายที่สหรัฐและจีน โดยตลาดหลักได้แก่ ยุโรป 39% , อเมริกาเหนือ 26% เอเชีย 24% และอืนๆ (ณ สิ้น ก.ย. 53)
*กำไรสุทธิปี 53/54 โตมากจากมาร์จิ้นปรับสูงขึ้น
กรรมการผู้จัดการ PTL คาดว่ารายได้งวดปี 53-54 (เม.ย 53.-มี.ค.54) จะมากกว่า 9 พันล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 7.3 พันล้านบาท โดยในครึ่งแรกทำได้ 4.67 พันล้านบาท
แต่กำไรสุทธิจะเติบโตมาก ซึ่งครึ่งปีแรกทำได้ 1,175 ล้านบาท มากกว่ากำไรสุทธิทั้งปีในงวดปี 52/53 ที่มีกำไรสุทธิ 1,039 ล้านบาท เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้น โดยคาดว่าในครึ่งปีหลังจะสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ใกล้เคียงครึ่งปีแรก ที่อัตรา 25.6% สูงกว่าปีก่อนที่มีอัตรา 14.6% เนื่องจากราคาขายปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าราคาแผ่นฟิล์ม PET ชนิดบางในครึ่งปีหลังจะมีราคาทรงตัวจากครึ่งปีแรกที่ระดับราคา 4-5 เหรียญ/กก. หรืออาจจะเพิ่มขึ้นบ้างเล็กน้อย เพราะราคาขายที่ผ่านมาปรับขึ้นมาตลอดจนปัจจุบันปรับขึ้นมาแล้วประมาณ 100% ตั้งแต่ต้นปี 53 ดังนั้นคาดว่าในครึ่งปีหลัง(ต.ค.53- มี.ค.54) จะมีผลประกอบการใกล้เคียงครึ่งปีแรก
PTL เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นฟิล์ม PET (แบบธรรมดาและเคลือบอลูมินียม) เม็ดพลาสติก แผ่นฟิล์มเคลือบอัดขึ้นรูป และแผ่นฟิล์ม CPP (แบบธรรมดาและเคลือบอลูมินียม)ใช้ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า