ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 24.97 จุดเหตุวิตกหนี้ไอร์แลนด์-ข่าวสหรัฐสอบทุจริตสถาบันการเงิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 23, 2010 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าวงเงินที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ให้ความช่วยเหลือไอร์แลนด์นั้น อาจไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะและวิกฤตในภาคการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากมีรายงานว่าสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) รุดเข้าตรวจสอบสถาบันการเงินบางแห่งเพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับการซื้อขายแบบใช้ข้อมูลวงใน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 24.97 จุด หรือ 0.22% แตะที่ 11,178.58 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขยับลง 1.89 จุด หรือ 0.16% แตะที่ 1,197.84 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้น 13.90 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 2,532.02 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้น Nasdaq มีอยู่ 7.04 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในสัดส่วน 1,520 ต่อ 1,453 ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงไปกว่า 150 จุดในช่วงเช้า หลังจากเจ้าหน้าที่อียูได้ออกมาแสดงความกังวลว่า วงเงินราว 8-9 หมื่นล้านยูโรที่ไอเอ็มเอฟและอียูให้ความช่วยเหลือไอร์แลนด์นั้น อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้รัฐบาลไอร์แลนด์สามารถกู้วิกฤตในภาคธนาคาร หรือแก้ปัญหาหนี้สาธารณะภายในประเทศได้ ทั้งนี้ การแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่อียูส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า ปัญหาหนี้สาธารณะอาจลุกลามทั่วยุโรป และทำให้นักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวด้านการเงินของประเทศอื่นๆในกลุ่มยูโรโซน รวมถึงสเปนและโปรตุเกส

ไบรอัน โคเวน นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ยืนยันว่า ไอร์แลนด์จะรับเงินช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟ แต่ต้องแลกกับเงื่อนไขที่ว่าไอร์แลนด์ต้องดำเนินการโครงสร้างภาคธนาคารและลดยอดขาดดุลงบประมาณให้อยู่ในระดับไม่เกิน 3% ของตัวเลขจีดีพี โดยวงเงินที่ให้ความช่วยเหลือแก่ไอร์แลนด์ในครั้งนี้ อาจรวมถึงเงินจากกองทุนกลไกสร้างเสถียรภาพการเงินของยุโรป (EFSM) และเงินช่วยเหลือจากสำนักงานกำกับเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งโดยกลุ่มยูโรโซนและไอเอ็มเอฟเพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้สาธารณะลุกลามไปทั่วยุโรป

ทั้งนี้ แม้ยังไม่มีการเจรจาเกี่ยวกับวงเงินความช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟ แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าวงเงินที่ให้ความช่วยเหลือแก่ไอร์แลนด์จะมีมูลค่าต่ำกว่าที่ให้ความช่วยเหลือแก่กรีซเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.10 แสนล้านยูโร (1.50 แสนล้านดอลลาร์)

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ FBI ได้รุดเข้าตรวจสอบสถาบันการเงินบางแห่งเพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับการซื้อขายแบบใช้ข้อมูลวงในของเฮดจ์ฟันด์ที่บริหารงานโดยสถาบันการเงินดังกล่าว โดยข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดิ่งลง 3.37% หลังจากมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐกำลังตรวจสอบหาหลักฐานว่าสถาบันการเงินรายใหญ่แห่งนี้ทำธุรกรรมซื้อขายโดยใช้ข้อมูลวงในหรือไม่

เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับโกลด์แมน แซคส์ ในข้อหาฉ้อโกงนักลงทุนด้วยการปกปิดข้อมูลที่เป็นจุดอ่อนของตราสารหนี้ "ABACUS 2007-AC1" ซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (ตราสารซีดีโอ) การกระทำดังกล่าวส่งผลห้นักลงทุนขาดทุนหลายพันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงวิกฤตการณ์ซับไพรม์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ คดีความดังกล่าวจบลงด้วยการที่โกลด์แมน แซคส์ ถูกเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 535 ล้านดอลลาร์ และค่าธรรมเนียมชดเชยความเสียหายอีก 15 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 550 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นสวนทางการปิดลบของดาวโจนส์ หลังจากบริษัท ฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด (เอชพี) เปิดเผยรายได้สุทธิที่แข็งแกร่งเกินคาดถึง 2.54 พันล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งช่วยหนุนห้นเอชพีปิดพุ่ง 1.79%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ครั้งที่ 2 สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 2-3 พ.ย. วันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., รายได้ส่วนบุคคลเดือนต.ค.และยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค. และกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

วันพฤหัสบดี ตลาดหุ้นและตลาดการเงินของสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ส่วนวันศุกร์ ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ