ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) เพราะถูกกดดันจากภาวะการซื้อขายที่ซบเซาในตลาดหุ้นนิวยอร์ก และกระแสความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สาธารณะของไอร์แลนด์อาจลุกลามไปทั่วยุโรป หลังจากเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปกังวลว่า วงเงินช่วยเหลือที่ไอร์แลนด์ได้รับอาจไม่เพียงพอต่อการกู้วิกฤตการณ์การเงินในประเทศ
ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วง 52 จุด หรือ 0.9% แตะที่ 5,680.83 จด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.เป็นต้นมา
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างผันผวน เมื่อเจ้าหน้าที่อียูได้ออกมาแสดงความกังวลว่า วงเงินราว 8-9 หมื่นล้านยูโรที่คาดว่าไอเอ็มเอฟและอียูจะให้ความช่วยเหลือไอร์แลนด์นั้น อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้รัฐบาลไอร์แลนด์สามารถกู้วิกฤตในภาคธนาคาร หรือแก้ปัญหาหนี้สาธารณะภายในประเทศได้
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ไอร์แลนด์ได้ฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดร่วง 4.6% และหุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ดิ่งลง 4.2%
รัฐบาลไอร์แลนด์ประกาศรับความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการจากอียูและไอเอ็มเอฟ ซึ่งแม้ยังไม่มีการเจรจาเกี่ยวกับวงเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าวงเงินที่ให้ความช่วยเหลือแก่ไอร์แลนด์จะมีมูลค่าต่ำกว่าที่ให้ความช่วยเหลือแก่กรีซเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.10 แสนล้านยูโร (1.50 แสนล้านดอลลาร์)