ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าร่วงแรงไปกว่า 10 จุดตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลงมาตามตลาดหุ้นดาวโจนส์ เนื่องจากความกังวลในปัญหาหนี้ฝั่งยุโรป ขณะที่ตลาดหุ้นจีนก็ปรับลดลงความความวิตกปัญหาเงินเฟ้อในประเทศ
เมื่อเวลา 11.19 น.ดัชนี SET มาอยูที่ 1,008.96 จุด ลดลง 10.23 จุด (-1%)
ล่าสุด เมื่อ 11.36 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,007.46 จุด ลดลง 11.73 จุด(-1.15%)
นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภุมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันถ้วนหน้า เนื่องจากเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินบาทได้อ่อนค่าลง ล่าสุดได้ขึ้นมาเหนือระดับ 30.01 บาท/ดอลลาร์และมีทีท่าว่าจะอ่อนลงอีก
ทั้งนี้ เป็นผลจากที่ปัญหาหนี้ในไอร์แลนด์ที่ยังไม่จบ โดยมีการมองกันว่าอาจจะมีปัญหาอย่างอื่นอีก และวันนี้เงินยูโรก็อ่อนค่าลงด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีการเก็งกันว่าจีนอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อในประเทศ หลังจากที่ได้มีมาตรการควบคุมการถือครองอสังหาริมทรัพย์ในจีนและฮ่องกง
สำหรับปัจจัยบ้านเรา ติดตามการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญของที่ประชุมร่วมรัฐสภา แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญเท่ากับสัปดาห์หน้าที่จะมีการแถลงปิดคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอาจจะมีคำตัดสินออกมา
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,000 และ 980 จุด แนวต้าน 1,020 จุด