(เพิ่มเติม) PTTEP คาดเซ็นพันธมิตร Statoil ต้นปี 54 ร่วมพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในอนาคต

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 23, 2010 14:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) กล่าวว่า บริษัทจะลงนามในบันทึกข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับ Statoil ในช่วงต้นปี 54 เพื่อพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม และศึกษาโอกาสการลงทุนร่วมกันในอนาคต หลังจากที่ PTTEP ได้เข้าร่วมทุนในโครงการ Oil Sands Kai Kos Dehseh (KKD) ในประเทศแคนาดา

ทั้งนี้ PTTEP มองว่า Statoil มีความสามารถในการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมประเภท oil sand และ deep water เชื่อว่าความร่วมมือในอนาคตจะมีอย่างต่อเนื่อง แต่ทาง Statoil ยังไม่มีความสนใจเข้ามาถือหุ้นในแหล่ง M9 ของ PTTEP

เช้านี้ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) เปิดเผยว่า บริษัท PTTEP Netherland Holding Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยลงนามความร่วมมือกับบริษัท Statoil Canada Ltd. และ Statoil Canada Holdings Corp. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Statoil ASA (Statoil) เพื่อเข้าถือหุ้นในแหล่ง KKD ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศแคนาดา คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 2,280 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายอนนต์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนปริมาณการขายบปิโตรเลียม รายได้ และกำไรสุทธิในปี 54 ซึ่งจะนำเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาในวันที่ 23 ธ.ค.53 หลังจากได้เข้าร่วมทุนในแหล่งดังกล่าว ซึ่งจะมีปริมาณปิโตรเลียมเข้ามาตั้งแต่ต้นปี

"ยังไงปริมาณการขายและกำไรสุทธิปีหน้า น่าจะเพิ่มขึ้นจากปีนี้ เพราะแหล่งใหม่ที่เราซื้อล่าสุด กำลังการผลิตเบื้องต้นประมาณ 1 หมื่นบาร์เรล/วันจะเข้ามาตั้งแต่ต้นปีเลย และทิศทางราคาน้ำมันก็ยังสูง"นายอนนต์ กล่าว

สำหรับเงินลงทุนในโครงการ KKD ประมาณ 2.28 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดของ PTTEP โดยเม็ดเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เงินกู้ 500 ล้านเหรียญสหรัฐจากสถาบันการเงินต่างประเทศที่จะเซ็นสัญญากับ 4 ธนาคารต่างประเทศภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นธนาคารญี่ปุ่น 3 แห่ง และสิงคโปร์ 1 แห่ง

นอกจากนั้น บริษัทจะมีการออกหุ้นกู้สกุลต่างประเทศอีก 800 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่จะเสนอขายในต่างประเทศเป็นสกุลดอลลาร์ทั้งหมด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาจังหวะที่เหมาะสมอีกครั้ง

นายอนนต์ กล่าวว่า หลังจากแผนกู้เงินและออกหุ้นกู้จะทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุน(DE)ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.7 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.4 เท่า โดยหนี้เงินกู้ต่างประเทศที่เป็นสกุลดอลลาร์จะเพิ่มจาก 40% เป็น 55%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะมีการลงทุนขนาดใหญ่ ก็ยังเชื่อว่าจะไม่กระทบกับการจ่ายเงินปันผลที่นโยบายของบริษัทกำหนดไว้ที่ 40% ของกำไรสุทธิ และ บริษัทยังคงมองหาแหล่งผลิตใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มเติม เพื่อให้ได้เป้าหมายกำลังการผลิตที่ 9 แสนบาร์เรล/วันในปี 63


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ