ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากเกิดเหตุการณ์ยิงปะทะกันที่บริเวณชายแดนระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังคงได้ปัจจัยลบจากความกังวลเรื่องปัญหาหนี้ไอร์แลนด์และมาตรการควบคุมเงินเฟ้อของจีน
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 99.55 จุด หรือ 1.8% ปิดที่ 5,581.28 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดตลาดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก หลังจากเกิดเหตุการณ์เกาหลีเหนือได้ระดมยิงกระสุนปืนใหญ่หลายร้อยลูกเข้าใส่เกาะยอนเปียงใกล้ชายแดนติดกับเกาหลีใต้ โดยมีเป้าหมายที่จะตอบโต้การซ้อมรบของเกาหลีใต้ ในขณะที่เกาหลีใต้ก็ตอบโต้ด้วยการยิงอาวุธเข้าใส่เช่นกัน สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าอาจบานปลายจนทำให้เกิดสงครามในคาบสมุทรเกาหลี
นอกจากนี้ ตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลเรื่องปัญหาหนี้ไอร์แลนด์และมาตรการควบคุมเงินเฟ้อของจีน โดยไอร์แลนด์มีความเสี่ยงที่จะถูกมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ลดอันดับความน่าเชื่อถือ หลังจากยอมรับความช่วยเหลือด้านการเงินจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ขณะที่รัฐบาลจีนประกาศห้ามกักตุนน้ำมัน ถ่านหิน และสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญอื่นๆ เพื่อควบคุมราคาที่สูงขึ้น แม้ว่ารัฐบาลได้ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม
หุ้นแบงค์ ออฟ ไอร์แลนด์ ร่วงลง 25% ขณะที่หุ้นอัลไลด์ ไอริช ปิดร่วง 19% ส่วนหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปิดร่วง 2.7% หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ปิดร่วง 1.5% ส่วนหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดลบ 2.1%
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก รวมถึงทองแดงและอลูมินัม โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดร่วง 2.2% หุ้นริโอทินโตปิดร่วง 2.8% และหุ้นเอ็กสตราต้าปิดลบ 2.2%