แหล่งข่าวจาก บมจ.ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น (TCC) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ไตรมาส 4/53 คาดกำไรน่าจะดีกว่าไตรมาส 3/53 และมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเป็นลำดับต่อไปเรื่อยๆ ตามทิศทางของราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
อีกทั้งเงินบาทแข็งค่าทำให้บริษัทได้ประโยชน์เพราะมีการนำเข้าถ่านหินทั้ง 100% ซึ่งในไตรมาส 4/53 ก็ยังคงต้องได้ประโยชน์อยู่ เพราะเรารับเข้ามาในราคาที่ถูกก็จะเป็นกำไร ขณะที่แนวโน้มราคาขายถ่านหินในประเทศก็ดีขึ้นมากดีกว่าไตรมาส 3/53 เนื่องจากเมื่อราคาถ่านหินในตลาดโลกก็ปรับขึ้นเราก็สามารถปรับราคาขายตามได้
อนึ่ง TCC รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/53 มีกำไรสุทธิ 4.42 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.006 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 6.3 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.008 บาท
ส่วนคาดการณ์ผลประกอบการปี 54 อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัท แต่คงต้องดีขึ้นแน่นอน
แหล่งข่าว กล่าวว่า TCC จะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมดภายในปีนี้ โดยจากงบการเงินล่าสุดเหลือภาระขาดทุนสะสมอยู่แค่ 3 ล้านบาทหลังจากลดราคาพาร์ จากเดิมที่เคยขาดทุนสดสมสูงถึงกว่า 300 ล้านบาท ดังนั้น ไม่น่ามีปัญหาอะไร และหลังจากล้างขาดทุนสะสมทั้งหมดแล้ว ก็เชื่อว่าจะพิจารณาจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้
"ไม่น่าจะติดอะไรถ้าทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ควรจะเป็น ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น ส่วนจะพิจารณา(จ่ายปันผล)งวดปี 53 เลยหรือเปล่า ก็ต้องดูกำไรว่าเยอะหรือเปล่าในช่วงซีซั่นสุดท้ายของเรา เพราะพอกำไรก็ต้องมีการกันสำรองตามกฎหมาย ถ้าจ่ายแล้วน้อยนิดเราก็อยากจะให้ผู้ถือหุ้นได้เต็มเม็ดเต็มมือหน่อย อาจจะอั้นไปอีกไตรมาสหนึ่งหรือเปล่า แต่ถ้าสมมติไตรมาสสุดท้ายจ่ายไปแล้วค่อนข้างจะเต็มไม้เต็มมือเราก็จะประกาศจ่ายทันที"แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว กล่าวถึงกรณีที่ราคาหุ้น TCC ที่ปรับขึ้นสวนตลาดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาว่า เนื่องจากบริษัทพลิกมีกำไรในไตรมาส 3/53 หลังจากขาดทุนมาหลายไตรมาส และรายได้ปีนี้คาดว่าจะสูงกว่าเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ในระดับกว่า 100 ล้านบาทค่อนข้างมาก เพราะขณะนี้ทะลุเป้าหมายไปมากแล้ว
ในมุมมองของผู้บริหารถ้าเทียบกับบริษัทอื่นๆ เรายังมี story ที่จะดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นภาวะของกำไรสูงขึ้นในอัตราเร่งที่ดีและเป็นช่วง Business turnaround
"ในแง่ภาพรวมของธุรกิจราคาน้ำมันก็ปรับขึ้น ราคาถ่านหินก็ไล่ตามกันมา และธุรกิจถ่านหินเป็นธุรกิจปิด คู่แข่งขันไม่ได้หลากหลาก แต่ปริมาณการใช้ในแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น บริษัทก็อยู่ในช่วงของจุดเริ่มต้น เพราะปี 52 เป็นปีที่เราเพิ่งยืน ปีหน้าเริ่มเดินและอีกปีก็ต้องเริ่มวิ่ง"แหล่งข่าว กล่าว
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่วิ่งสวนตลาดขึ้นมา ก็เป็นห่วงนักลงทุน เพราะทุกคนจะตั้งคำถามกับบริษัท แต่บริษัทยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และการซื้อขายหุ้น TCC ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักลงทุน บางคนอาจมองว่าอัพไซด์ยังมี ขณะที่มูลค่าทางบัญชี(BV)อยู่ที่ 0.50 บาท/หุ้น ราคาปัจจุบันสูงกว่า BV เล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะช่วงปลายปีราคาหุ้นปรับขึ้นมา ราคาน้ำมันและราคาถ่านหินก็ปรับขึ้นทั้งหมด