ที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT)หรือ ทอท.มอบหมายฝ่ายบริหารเจรจากับบริษัท ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด(DCAP)ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจ่ายน้ำเย็นในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้รีบแก้ปัญหาน้ำเย็นที่จัดส่งให้ ทอท.ไม่เป็นไปตามสัญญาที่กำหนดว่าน้ำเย็นต้องมีอุณหภูมิไม่เกิน 5.5 องศาเซลเซียส และยังมีปัญหาเครื่องทำน้ำเย็นเสีย 3 เครื่องจากทั้งหมด 10 เครื่อง ส่งผลให้อุณหภูมิภายในท่าอากาศยานสูงขึ้น
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ๋ AOT กล่าวว่า ทอท.พบว่าอุณหภูมิน้ำเย็นไม่เป็นไปตามที่กำหนดตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนเครื่องทำน้ำเย็นเสียเมื่อต้นเดือน พ.ย.นี้
"ปัจจุบัน พบปัญหาความร้อนในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสูงมาก โดยเฉพาะบริเวณจุดตรวจคนเข้าเมืองมีอุณหภูมิสูงถึง 30 องศาเซลเซียส ทอท.ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่จำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหา มิเช่นนั้นผู้โดยสารจะไม่ได้รับความสะดวกสบาย"นายเสรีรัตน์ กล่าว
ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ ทอท.ได้อนุมัติวงเงินประมาณ 700-800 ล้านบาทเพื่อเพิ่มจุดกระจายความเย็น แต่ DCAP ระบุว่า ทอท.ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะผิดเงื่อนไขสัญญา คณะกรรมการฯ จึงให้ ทอท.ไปดูรายละเอียดสัญญาว่าจะสามารถปรับแก้หรือยกเลิกสัญญาได้หรือไม่ เนื่องจากเห็นว่า ทอท.เสียเปรียบ
ทั้งนี้ ตามสัญญาเมื่อ DCAP ไม่สามารถดำเนินการตามสัญญาจะมีเวลาปรับแก้ภายใน 60 วัน และสามารถขยายได้อีก 180 วัน ขณะที่ ทอท.มีสิทธิเรียกค่าปรับในอัตรา 2% ของค่าจ้างเดือนละ 40 ล้านบาท หรือคิดเป็นเงินค่าปรับประมาณ 2 ล้านบาท
"ในทางปฏิบัตินั้น ทอท.ไม่ต้องการได้ค่าปรับแต่ต้องการได้รับบริการที่ดีภายในระยะเวลาที่เร็วที่สุด เพราะเมื่อเกิดปัญหาผู้โดยสารร้องเรียนเรื่องอุณหภูมิจะต้องเร่งแก้ทันที ไม่ใช่รอถึง 8 เดือน"นายเสรีรัตน์ กล่าว