บล.กสิกรไทยและ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แนวโน้มดัชนีหุ้นไทย ในสัปดาห์หน้า (29 พ.ย.-3 ธ.ค.) อาจยังคงผันผวนในกรอบแคบ โดยมีโอกาสปรับตัวขึ้น (Sideway up) ส่วนหนึ่งจากแรงหนุนของเม็ดเงินจากกองทุน LTF/RMF
โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ (29 พ.ย.) การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนโดย ธปท. (30 พ.ย.) การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อโดยกระทรวงพาณิชย์ (1 ธ.ค.) ผลการประชุมนโยบายอัตราดอกเบี้ยของ กนง. (1 ธ.ค.) ประเด็นหนี้ในยูโรโซน และความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีภาคการผลิตและบริการ รวมถึงตัวเลขตลาดแรงงาน
ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 977 และ 950 จุด ขณะที่ แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,020 และ 1,050 จุด ตามลำดับ
ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดต่ำกว่าระดับ 1,000 จุดอีกครั้ง ท่ามกลางปัจจัยลบที่เข้ามารุมล้อม โดยดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 991.71 จุด ปรับตัวลดลง 1.69% จาก 1,008.77 จุด ในสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ปรับขึ้น 35.01% จากสิ้นปี 2552 ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์ลดลง 5.83% จาก 192,623.36 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 181,402.65 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ลดลงจาก 38,524.67 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 36,280.53 ล้านบาท
โดยนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิที่ 4,037.32 ล้านบาทและ 1,543.90 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิที่ 5,142.08 ล้านบาท และ 439.13 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 260.31 จุด ปรับลดลง 3.35% จาก 269.32 จุด ในสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.91% จากสิ้นปีก่อน