ฟิทช์ฯคงอันดับเครดิต PTT หลัง PTTEP เข้าซื้อ KKD-ออสเตรเลียทบทวนใบอนุญาต

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday November 27, 2010 11:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (International Long-term Foreign Currency Issuer Default Rating) ของบมจ.ปตท. (PTT). ที่ระดับ ‘BBB’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ (International Long-term Local Currency Issuer Default Rating) ที่ระดับ ‘A-’ แนวโน้มเครดิตเป็นลบ อันดับเครดิตสากลระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศ (International Short-term Foreign Currency Issuer Default Rating) ที่ระดับ ‘F3’ อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวที่ระดับ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ระดับ ‘F1+(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิที่ระดับ ‘AAA(tha)’

การคงอันดับเครดิตของ ปตท. สืบเนื่องจากการประกาศเข้าซื้อหุ้น 40% ในแหล่ง Kai Kos Dehseh Oil Sands (KKD) ในประเทศแคนาดาของบมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท. สผ. จาก Statoil ASA และการที่รัฐบาลออสเตรเลีย กำลังพิจารณาทบทวนใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศออสเตรเลียของปตท. สผ. หลังจากเหตุการณ์การรั่วไหลของน้ำมันจากแหล่ง Montara

ค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้นจากการเข้าซื้อหุ้นในแหล่ง KKD ของ ปตท. สผ. น่าจะส่งผลกระทบต่ออัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการพิจารณาอันดับเครดิตของ ปตท. และทำให้อันดับเครดิตของปตท.โดยพิจารณาเครดิตของปตท.เพียงลำพัง (Standalone Rating) อ่อนแอลง

นอกจากนี้ความไม่แน่นอนในการดำเนินธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศออสเตรเลียที่บริษัทเผชิญอยู่ อาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทในอนาคตอีกด้วย ดังนั้นแนวโน้มเครดิต Standalone Rating ของปตท. จึงมี แนวโน้มเป็นลบ

อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศของปตท.จะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจาก Standalone Rating ของปตท. เพื่อสะท้อนถึงการสนับสนุนของรัฐบาลต่อปตท.ในทางอ้อม (Implicit Support) เมื่อ Standalone Rating ของปตท. มีการปรับลดลงต่ำกว่า ‘A-’

เมื่อพิจารณารวมเงินลงทุนในการซื้อแหล่ง KKD จำนวน 2.28 พันล้านเหรียญสหรัฐ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (Adjusted net debt to operating EBITDAR) ของปตท. น่าจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 2.0-2.5 เท่าในปี 2554-2556 ซึ่งสูงกว่าที่ฟิทช์เคยคาดไว้

นอกจากนี้ หากใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศออสเตรเลียของปตท. สผ. ถูกยกเลิกจะส่งผลให้ปริมาณการขายและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของปตท. สผ. ในอนาคตลดต่ำลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงทำให้การลดหนี้ของปตท. ในอนาคตล่าช้าออกไป

ตามหลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทใหญ่กับบริษัทย่อย (Parent and Subsidiary Rating Linkage Methodology) ฟิทช์จัดอันดับเครดิตปตท.โดยเริ่มจากการพิจารณา Standalone Rating ของปตท. แล้วจึงพิจารณาถึงปัจจัยเสริมจากความสัมพันธ์ดังกล่าว (Bottom-up Approach) โดยฟิทช์ได้ให้อันดับเครดิตเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจาก Standalone Rating ของปตท. เพื่อสะท้อนถึงการสนับสนุนของรัฐบาลต่อปตท.ในทางอ้อม ซึ่งการเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจะมีผลก็ต่อเมื่ออันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศของประเทศไทยอยู่สูงกว่า Standalone Rating ของปตท.

แนวโน้มเครดิตเป็นลบของอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศของปตท. สะท้อนถึงแนวโน้มเครดิตเป็นลบของอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศของประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ