โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT)ประเมินแนวโน้มงวดไตรมาส 1/54(ต.ค.-ธ.ค.53)จะฟื้นกลับมามีกำไรจากไฮซีซั่นท่องเที่ยว หลังไตรมาส 4/53 ขาดทุน 643 ล้านบาท ที่เป็นไปตามคาด หลักมาจากจ่ายโบนัสพนักงาน กว่า 5 เดือน
และคาดว่ากำไรในงวดปี 53/54 จะเติบโต 99-140% เป็น 2.8-3.4 พันล้านบาท จากปี 53 มีกำไรสุทธิ 1.4 พันล้านบาท เป็นผลจากการเติบโตของจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสาร รวมทั้งคาดว่าปี 54 ไม่มีการให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมในการขึ้นลงของอากาศยานและค่าธรรมเนียมเก็บอากาศยานอีก
ด้านราคาหุ้นยังมี upside สูง จากราคาปัจจุบันที่ 38.25 บาท (เวลา 15.21 น.)
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท) บล.กิมเอ็ง ซื้อ 50.00 บล.บัวหลวง ซื้อ 48.00 บล.ยูไนเต็ด ถือ 45.00 บล.ฟินันเซียไซรัส ซื้อ 43.00 บล.ธนชาต ซื้อ --
รวมแล้ว ได้กำไรสุทธิปี 52/53(ต.ค.52—ก.ย.53)ที่ 1,416 ล้านบาท(0.99 บาท/หุ้น)เติบโต 97% กำไรเติบโตแข็งแกร่งจากปีก่อนตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกทำให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นมากขึ้น โดยจำนวนผู้โดยสารปี 2552/53 เติบโตที่ 14.7% yoy และจำนวนเที่ยวบินโต 11.3% yoy
และคาดว่าในงวดปี 52/53 จะจ่ายเงินปันผล 0.50 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 3%
"แนะนำ ซื้อ หุ้นยัง laggard ราคาหุ้นยังมี upside ประมาณ 30% ปันผลได้ 3% และมองปีหน้าน่าจะดีขึ้น"น.ส.ดาวดี กล่าว
ทั้งนี้ ได้ปรับกำไรปกติปี 53/54 ลง 7.7% เป็น 3,395 ล้านบาท โต 140%(2.38 บาท/หุ้น)จากค่าฐานค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้น โดยปีหน้าประเมินว่าจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 14% และจำนวนเที่ยวบินเติบโต 12% ซึ่งจะทำให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น 11% เป็น 26,676 ล้านบาท
ส่วนเรื่องเงินค่าชดเชยจำนวน 1,029 ล้านบาทจากการให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมแก่สายการบินและผู้ประกอบการในสนามบินเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวปี 52 นั้นยังไม่ได้เข้า ครม.เพื่ออนุมัติและก็ยังไม่ได้รวมอยู่ในประมาณการของเรา
น.ส.ปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ผลขาดทุนงวดไตรมาส 4/53 ของ AOT เป็นไปตามคาด และมองแนวโน้มคาดว่ากำไรสุทธิของ AOT จะฟื้นตัวในไตรมาส 1/54 หนุนโดยช่วงไฮซีซั่นท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่กลับเป็นปกติ
อีกทั้งตัวเลขการจราจรทางอากาศเบื้องต้นของสนามบินสุวรรณภูมิในระหว่างวันที่ 1-21 พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 8% YoY ในขณะที่จำนวนเที่ยวบินปรับตัวเพิ่มขึ้น 7% YoY โดยหลักๆ มาจากผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งคาดว่าตัวเลขการจราจรทางอากาศจะยังทรงตัวอยู่ในขาขึ้นตลอดจนเดือน มี.ค. 54
ดังนั้น จึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 53/54 ที่ 2,812 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99% YoY หนุนโดยการเติบโตของการจราจรทางอากาศและการหมดอายุลงของมาตรการช่วยเหลือในเดือน ธ.ค.53
"เรามองระยะยาวว่า AOT จะดีขึ้น เราคิดว่ากำไรได้ bottom ไปแล้ว ดูแล้วปีหน้าน่าจะปรับตัวสูงขึ้นมาก"น.ส.ปองรัตน์ กล่าว
ด้านบล.ธนชาต มองว่า เนื่องจาก AOT มีค่าใช้จ่ายโบนัสพนักงาน และค่าใช้จ่ายเนื่องจากการเกษียณอายุก่อนกำหนด ค่าใช้จ่ายพนักงานของ AOT จึงเพิ่มขึ้น 46%yoy และ 176%qoq
ขณะที่ AOT ได้เปลี่ยนมาบันทึกสินทรัพย์ตามสัญญาเช่าการเงิน (financial lease) จากเดิมบันทึกแบบสัญญาเช่าดำเนินงาน(Operating Lease)สำหรับ check-in systems และ CCTV cameras จึงทำให้ค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น 15%yoy และ 16%qoq ซึ่งเป็นสาเหตุให้อัตรากำไรของ AOT หดตัวลงมาอยู่ที่ 16.3% ในงวดไตรมาส 4/53 จาก 25.4% ในงวดไตรมาส 4/52 และ 36.5% ในงวดไตรมาส 3/53
ทั้งนี้ อาจจะต้องปรับลดประมาณการกำไรปี 54/55 ของเราลง เนื่องจากค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เรายังคงชอบ AOT เนื่องจากธุรกิจมีลักษณะที่ผูกขาด นอกจากนี้ AOT ยังเป็นบริษัทที่มีเงินสดจำนวนมาก ด้วยต้นทุนเงินสดจากการดำเนินงานที่ต่ำ
"เราคาดว่ากำไรปี FY11 จะเติบโตแข็งแกร่ง เนื่องจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย และการไม่มีการให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมในการขึ้นลงของอากาศยาน และค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยานอีกต่อไป เป็นปัจจัยหลักผลักดันราคาหุ้นในปีหน้า นอกจากนี้ ยังมีมูลค่าไม่แพง"บทวิเคราะห์ ระบุ