SINGER ศึกษาจับมือพันธมิตรอินเดียทำไมโครไฟแนนซ์,รายได้ปีนี้โตเกินเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 30, 2010 17:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย(SINGER)กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการทำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ร่วมกับพันธมิตรจากอินเดีย โดยเบื้องต้นจะเริ่มจากฐานลูกค้าของบริษัทที่มีประวัติดี แต่มองว่าการปล่อยสินเชื่อในประเทศไทยมีข้อบังคับจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่กำหนดเพดานในการเรียกเก็บดอกเบี้ย จึงต้องพิจารณาในประเด็นนี้ก่อนว่าจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่

ในส่วนของแนวทางการทำธุรกิจมองไว้ 2 แนวทาง คือ แนวทางแรกให้พันธมิตรจากอินเดียเป็นผู้ลงทุน ขณะที่บริษัทจะรับบริหารงาน หรือ การลงทุนร่วมกัน

"เรามีใบอนุญาตทำธุรกิจ personal loan อยู่แล้ว เพราะเคยทำเมื่อ 3-4 ปีก่อนแล้วหยุดไป ซึ่งถ้ากลับมาทำก็คงเริ่มจากฐานลูกค้าของบริษัท และถ้าให้เรารับบริหารเราก็สามารถทำได้ทันที และเมื่อทุกอย่างลงตัวก็อาจจะมีการร่วมทุนกันภายหลัง แต่ทั้งนี้ก็ต้องใช้เวลาศึกษาพอสมควร คงยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ"นายบุญยง กล่าว

นายบุญยง ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีนักลงทุนต่างชาติหลายรายสนใจเข้ามาซื้อหุ้นผ่านกองทุน โดยส่วนใหญ่ติดต่อเข้ามาผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งนักลงทุนเหล่านี้เห็นว่าตลาดทุนในเอเชียกำลังเติบโตดี โดยเฉพาะประเทศไทยน่าลงทุนกว่าในยุโรปและสหรัฐที่กำลังมีปัญหา ที่ผ่านมาแม้ว่าไทยจะมีปัญหาการเมืองแต่ธุรกิจก็ยังสามารถดำเนินต่อไปได้

*ตั้งแต่ปี 54 รายได้โต-ล้างขาดทุนสะสม,ปีนี้โตเกินเป้า 15%

นายบุญยง กล่าวว่า ในปี 54 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% บริษัทมีแผนมุ่งเน้นขายให้กับร้านค้ามากขึ้น โดยในปีหน้าจะออกผลิตภัณฑ์ตู้แช่เบียร์และตู้น้ำดื่มยอดเหรียญ รวมถึงไมโครเวฟเชิงอุตสาหกรรม ประกอบกับจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในครัวเรือน เช่น ตู้เย็นที่ฟรีซอยู่ข้างล่าง เครื่องซักผ้าอัตโนมัติใช้สำหรับแรงดันน้ำทุกรูปแบบ ทีวีแอลซีดี 32 นิ้ว ซึ่งเริ่มทยอยออกมาตึ้งแต่ต.ค.แล้ว ตั้งเป้ายอดขาย 1 พันเครื่องต่อเดือนในปีหน้า สร้างรายได้เดือนละ 20 ล้านบาท

ในปีหน้าบริษัทตั้งงบลงทุนปี 54 ไว้ที่ 120 ล้านบาท โดยในจำนวนดังกล่าว 80 ล้านบาทใช้เพื่อส่งเสริมการขายภายในบริษัทเป็นแรงจูงใจพนักงาน และอีก 40 ล้านบาทจะใช้เพื่อขยายสาขาเพิ่มอีก 10 สาขา จากปัจจุบันที่มี 180 สาขา และเป็นค่าใช้จ่ายในการโฆษณา

บริษัทยังมั่นใจว่าจะล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 40 ล้านบาทในปัจจุบันได้หมดภายในปีหน้า และหากล้างขาดทุนสะสมแล้วพร้อมจะจ่ายเงินปันผลหลังจากไม่ได้จ่ายมาเป็นเวลา 3 ปี

ส่วนในปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโตเกินเป้าหมาย 15% หลังจาก 9 เดือนแรกเติบโตไปแล้ว 23% ปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากยอดขายแอร์ 26% เครื่องซักผ้า 20% ตู้แช่ 16% ส่วนตู้เติมเงินมือถือ 7% และยังมีแนวโน้มเติบโตได้สูง

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 4/53 บริษัทคาดว่าจะดีกว่าไตรมาสก่อน และดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถึงแม้เดือนต.ค.จะเกิดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม โดยมีลูกค้า 2 พันบัญชีที่พนักงานไม่สามารถเข้าไปเก็บเงินค่าสินค้าได้ หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 1 ล้านบาท ทำให้เปอร์เซ็นต์การเรียกเก็บเงินในเดือนต.ค.ลดลง แต่ภาพรวมการขายในเดือน พ.ย.-ธ.ค.53 ก็ยังดีอยู่

ประกอบกับ บริษัทได้มีการออกจำหน่ายตู้เติมเงินมือถือ โดยไตรมาสแรกขายได้ 100 ตู้/เดือน ไตรมาส 2/53 ขายได้ 100 ตู้/เดือน มาถึงไตรมาส 3/53 ขายได้ 800 ตู้/เดือน และคาดว่าไตรมาส 4/53 น่าจะขายได้ 800-900 ตู้/เดือน ส่วนในปีหน้าตั้งเป้าไว้เดือนละ 1 พันตู้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ