นายสหวัสส์ เตชาชาญ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.ไทย เอ็น ดี ที (TNDT) ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัยด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 20% จากปี53 ที่คาดว่าจะทำได้กว่า 300 ล้านบาท
รวมทั้งการขยายธุรกิจในปี 54 บริษัทจะเพิ่มน้ำหนักการขยานงานตรวจสอบด้านวิศวกรรมความปลอดภัยด้วยวิธีไม่ทำลายเข้าไปในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เช่น ซูดาน มาดากัสกา เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ 10% เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 5% หลังจากที่ศูนย์บริการทดสอบและตรวจสอบด้านวิศวกรรมบริการที่จังหวัดระยองจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.54
นายสหวัสส์ กล่าวว่า แม้ว่าในปีหน้างานในประเทศจะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ซึ่งเป็นไปตามภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศจะยังเติบโตไม่ชัดเจน โดยเฉพาะภาคการลงทุนจากต่างประเทศ ที่ยังได้รับผลกระทบจากความไม่ชัดเจนทางการเมือง จนทำให้นักลงทุนต่างชาติไม่กล้าตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทย รวมทั้งการชะลอการลงทุนของหลายโครงการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด แต่เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ เพราะการขยายตลาดออกสู่ต่างประเทศเพิ่มขึ้นจะช่วยกระจายความเสี่ยงและขยายช่องทางการสร้างรายได้ได้เป็นอย่างดี
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4/53 ว่า มีโอกาสออกมาในทิศทางดีกว่าไตรมาส 3 จากการรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) อยู่ที่มีอยู่กว่า 260 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาสดังกล่าวมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการยื่นประมูลงานใหม่ในประเทศอีกมูลค่ารวม 25 ล้านบาท และงานต่างประเทศอีก 2 โครงการมูลค่ารวม 30 ล้านบาท ซึ่งจะประกาศผลในเดือนธ.ค.53 โดยบริษัทฯ คาดว่าจะได้รับงานดังกล่าวในสัดส่วน 50% จากมูลค่างานทั้งหมด และจะทยอยรับรู้รายได้บางส่วนทันปีนี้ ดังนั้นจึงจะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่จะช่วยให้ผลประกอบการในไตรมาสดังกล่าวออกมาดีตามที่คาดไว้