โบรกฯเชียร์"ซื้อ"IVL กำไรปี 54 พุ่งรับกำลังผลิตเพิ่มหลังซื้อ 3 โรงงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 1, 2010 14:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส(IVL)ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ PTA และ PET จากประสบการณ์ในธุรกิจยาวนานกว่า 20 ปี และการเข้าซื้อกิจการโรงงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ IVL พร้อมดำเนินงานต่อได้เลยทันที ไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ และส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ทั้งนี้ ในปีหน้า IVL จะมีกำลังการผลิตที่ขยายตัวสูงมาก จากการเข้าซื้อโรงงาน 3 แห่งในจีน, สหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่งจะช่วยหนุนมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น และ IVL ยังมีโอกาสที่จะไปซื้อกิจการในสหรัฐฯและยุโรปเพิ่มเติมได้อีก

ส่วนสเปรดปิโตรเคมีในปี 53 อยู่ในระดับสูง และปีหน้าคาดว่าจะยังทรงตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 8,500-8,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 4,824 ล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 12,424-13,457 ล้านบาท ซึ่งปี 54 หลัก ๆ จะเติบโตจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นมาก

ราคาหุ้น IVL ปิดช่วงเที่ยงวันนี้ที่ 57.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท (+6.51%)

          โบรกเกอร์                     คำแนะนำ      ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)             ซื้อ              67.50
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)    ซื้อ              60.00
          บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย)     ซื้อ              62.50
          บล.เกียรตินาคิน                   ซื้อ              60.00
          บล.เอเชีย พลัส                   ซื้อ              69.00
          บล.บัวหลวง                      ซื้อ              62.00
          บล.ฟาร์อีสท์                      ซื้อ              60.00

นายเบญจพล สุทธิ์วนิช รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน แนะนำ"ซื้อ"หุ้น IVL ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 60 บาท/หุ้น เนื่องจากแนวโน้มของปิโตรเคมีปลายน้ำปีนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยสเปรดปิโตรเคมีอยู่ในระดับสูง

ส่วนปี 54 คาดว่าสเปรดปิโตรฯจะทรงตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่ แต่ IVL จะดีในปีหน้าจากกำลังการผลิตที่ขยายตัวมากขึ้น โดยปัจจุบัน IVL มีกำลังการผลิต PET ที่ 1 ล้านตันต่อปี ปีหน้าจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านตันต่อปี จากที่ได้ไปซื้อโรงงาน 3 แห่งในจีน, สหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่งจะไปช่วยหนุนมาร์จิ้นของ IVL ในปีหน้าเพิ่มขึ้น และ IVL ยังมีโอกาสที่จะเข้าซื้อกิจการในสหรัฐและยุโรปได้อีก

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 8,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85% จากปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 4,824 ล้านบาท ส่วนปี 54 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 13,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.5% จากปี 53 ซึ่งปี 2554 หลัก ๆ จะเติบโตจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นมาก

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟาร์อีสท์ แนะ"ซื้อ"หุ้น IVL เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ PTA และ PET ด้วยประสบการณ์นานกว่า 20 ปี และการเข้าซื้อโรงงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ IVL พร้อมดำเนินงานต่อได้เลย ส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย นอกจากนี้ปีนี้สเปรดปิโตรเคมีก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 8,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 4,824 ล้านบาท ส่วนปีหน้ากำไรสุทธิคาดว่าจะอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท โดยปีหน้า IVL จะมีการเติบโตที่ดีจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น จากที่ไปซื้อโรงงานเข้ามาในปีนี้

ด้านบล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น IVL ปรับราคาพื้นฐานปี 54 เพิ่มขึ้นเป็น 67.50 บาทเพื่อสะท้อนแนวโน้มการทำกำไรในอนาคตของโรงงานใหม่ที่ซื้อเข้ามาซึ่งจะสนับสนุนให้บริษัทมีกำไรสุทธิในปี 54-56 เติบโตเฉลี่ย(CAGR) 27.8%

ทั้งนี้ ได้ปรับกำไรสุทธิปี 53 เพิ่มขึ้น 23.8% จากเดิมที่ 6,918 ล้านบาท เป็น 8,565 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.98 บาท โดยกำไรที่ปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากใน 3Q53 บริษัทมีบันทึกกำไรพิเศษ(ค่านิยมติดลบ)จากการเข้าซื้อโรงงาน PTA และ PET ที่อิตาลีเมื่อก.ค.53 จำนวน 736 ล้านบาท และปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 52 bp จาก 13.72% เป็น 14.25% เนื่องจาก แนวโน้มความต้องการ PTA และโพลีเอสเตอร์ที่แข็งแกร่ง เพื่อทดแทนเส้นใยคอตตอนที่ราคาปรับขึ้นสูงมาก

สำหรับในปี 54 ปรับเพิ่มกำไรสุทธิอีก 58.2% จาก 7,851 ล้าน บาท เป็น 12,424 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.58 บาท โดยกำไรที่ปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากกำลังการผลิต PET เพิ่มขึ้น 64.6% จากเดิม เนื่องจากเมื่อกลางเดือนพ.ย.53 บริษัทประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อโรงงาน PET 3 แห่ง ใน 3 ประเทศคือ จีน(Shinda),อเมริกา และเม็กซิโก(Invista) คาดว่าการโอนกิจการจะแล้วเสร็จใน 1Q54 และจะใช้เวลาปรับปรุงโรงงานประมาณ 2-3 เดือน โดยคาดว่าบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงงาน Shinda ที่จีนประมาณ 2Q54 และโรงงาน Invista ในอเมริกาและเม็กซิโกประมาณ 3Q54


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ