ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 249.76 จุด ขานรับตัวเลขจ้างงานเอกชน-ภาคการผลิตสหรัฐสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 2, 2010 06:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) ทำสถิติปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 3 เดือน ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขจ้างงานในภาคเอกชนและดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากข้อมูลในภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีนและอังกฤษเช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 249.76 จุด หรือ 2.27% แตะที่ 11,255.78 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 25.52 จุด หรือ 2.16% ปิดที่ 1,206.07 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 51.20 จุด หรือ 2.05% ปิดที่ 2,549.43 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและ Nasdaq มีอยู่ราว 8.29 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าห้นลบในอัตราส่วน 7 ต่อ 2 ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดย ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วประเทศสหรัฐเพิ่มการจ้างงาน 93,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 58,000 ตำแหน่ง สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐกำลังอยู่ในระยะฟื้นตัว

ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนพ.ย.ขยายตัวสู่ระดับ 56.6 จุด ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 54.8 จุด เพราะได้แรงหนุนจากยอดการนำเข้าและส่งออกสินค้าในภาคการผลิตที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายตัวในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์

ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกับประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างจีนที่เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 55.2 จุด เพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 54.7 จุด ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกันที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนขยายตัวเหนือระดับ 50 จุด และบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ Markit/CIPS เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 58 จุด จากระดับ 55.4 จุดในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเป็นการขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 16 ปี

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกมากกขึ้นเมื่อนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ในยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลโปรตุเกสสามารถประมูลขายพันธบัตรได้จำนวนมาก และหลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปที่ออกมาเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ซื้อพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลในกลุ่มยุโรป ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารลางยุโรปอาจเตรียมมาตรการลดผลกระทบที่เกิดจากปัญหาหนี้สาธารณะ

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนต.ค.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนต.ค. และ ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนพ.ย. นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 9.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ