นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค(CEN) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 54 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีที่คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย 1.7-1.8 พันล้านบาท ถงแม้ในปีนี้งานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)จะล่าช้าออกไป แต่บริษัทได้งานในส่วนของ บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรี เข้ามาทดแทน และงานของ กฟผ.ก็จะรับรู้ในปีถัดไป
ทั้งนี้ บริษัท ระยองไวร์ เป็น 1 ใน 4 บริษัทในเครือของ CEN โดยบริษัทอื่น ๆ ได้แก่ บมจ.เอื้อวิทยา, บริษัท เอ็นเนซอล จำกัด และ บริษัท ซีอีเอ็น-ไอเอ็มซี จำกัด
นายวุฒิชัย กล่าวว่า เชื่อว่าบริษัทย่อยทุกแห่งจะมีการเติบโต ทั้งวัสดุก่อสร้าง พลังงาน และธุรกิจใหม่ คือ ขุดเจาะอุโมงค์ โดยมองว่าเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปีนี้จะทำให้ปีหน้าต้องมีการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และจะทำให้ยอดขายเส้นลวดเพิ่มขึ้นจากนี้ ขณะที่บริษัทจะพยายามเข้าไปรับงานในธุรกิจปิโตรเคมี เพราะมองว่าเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดี ซึ่งบริษัทมีโรงชุบเหล็กและขึ้นรูปเหล็กอยู่แล้ว
บริษัทตั้งงบลงทุนในปีหน้าไว้ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งจะแบ่งเป็นใช้ในธุรกิจวัสดุก่อสร้าง 120 ล้านบาท โดย บมจ.เอื้อวิทยา จะมีการซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามาทดแทนเครื่องจักรเก่า ขณะที่ บริษัท ระยองไวร์ฯ จะมีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 70 ล้านบาท ส่วนอีก 170 ล้านบาท จะนำไปใช้ลงทุนในธุรกิจพลังงาน ส่วนธูรกิจขุดเจาะอุโมงค์ใช้เงินลงทุน 10 ล้าน
ในปี 54 บริษัทมีแผนลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 1 แห่ง กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ และบริษัทจะนำโมเดลไปเสนอกับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายภายใน 3 ปีจะเพิ่มกำลังผลิตของโรงไฟฟ้าเพิ่มเป็น 20 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีอยู่ 11 เมกะวัตต์
นายวุฒิชัย กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าอัตรากำไรในปี 54 จะดีกว่าปี 53 เนื่องจากจะมีรายได้เพิ่มขึ้น และธุรกิจขุดเจาะที่มีมาร์จิ้นดีจะทำรายได้เข้ามาเต็มปี