นางสมฤดี ชัยมงคล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร การเงิน บมจ. บ้านปู (BANPU) กล่าวว่า บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้ในต้นปี 54 โดยเป็นการทยอยออก จากวงเงิน 2 หมื่นล้านบาทตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทฯได้อนุมัติไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งอายุหุ้นกู้ดังกล่าวจะอยู่ที่ 12-15 ปี ทั้งนี้บริษัทฯมีแผนจะปรับโครงสร้างเงินกู้ใหม่ เพื่อยืดอายุหนี้จากเดิมเฉลี่ย 5 ปี ออกไปเป็น 10ปี โดยบริษัทฯมีแผนจะปรับโครงสร้างเงินกู้ใหม่ เพื่อยืดอายุหนี้จากเดิมเฉลี่ย 5 ปี ออกไปเป็น 10ปี
“บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะออกหุ้นกู้ขึ้นมาทดแทน เพื่อยืดอายุหนี้ให้ยาวขึ้น ซึ่งต้นปีหน้าบริษัทฯจะทยอยออกหุ้นกู้วงเงิน 2 หมื่นล้านบาทตามที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นไปก่อนหน้านี้ อยากได้อายุหุ้นกู้ยาวกว่า 10ปี ส่วนจะออกหุ้นกู้ช่วงเวลาใดขอดูภาวะตลาดอีกที และศึกษาว่าจะออกสกุลเงินดอลล่าร์หรือบาท รวมทั้งจะขายรายย่อยหรือไม่ด้วย" นางสมฤดีกล่าว
สำหรับอัตราหนี้สินต่อทุนภายหลังจากซื้อหุ้น Centennial แล้วเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1 เท่ากว่า ซึ่งบริษัทฯฯสามารถบริหารจัดการได้ให้มีอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ระดับไม่เกิน 1 เท่า
นางสมฤดี กล่าวต่อว่า ในปีหน้าบริษัทฯตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตและขายถ่านหินที่อินโดนีเซียจากปีนี้ที่ 23 ล้านตันเป็น 26 ล้านตัน และจะรับรู้การผลิตและขายถ่านหินจาก Centennial ที่ออสเตรเลีย ซึ่งปีที่แล้ว Centennial มีการผลิตและขายถ่านหินอยู่ 14.5 ล้านตัน/ปี ซึ่งหากไม่มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตใน Centennial จะทำให้บ้านปูมีกำลังการผลิตและขายถ่านหินเพิ่มขึ้นจากปีนี้ประมาณ 50%
ส่วนการผลิตและขายถ่านหินจากเหมืองของจีนในปีหน้า ไม่เปลี่ยนแปลงจากปีนี้ โดยเป็นการผลิตและขายถ่านหินจากเหมืองต้าหนิงเกือบ 4 ล้านตัน/ปีและเหมืองเฮ่อปี้อีก 1.5 ล้านตัน/ปีซึ่งหลังจากบริษัทฯซื้อกิจการ Centennial แล้ว บ้านปูจะเริ่มรับรู้รายได้จาก Centennial เต็มที่ในไตรมาส 4 /53 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนการดำเนินงานและแผนงบประมาณร่วมกับบ้านปู คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพ.ค. 54
นางสมฤดี กล่าวถึงกรณีที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนซื้อกิจการ Centennial เนื่องจากมีการทำสัญญาตั้งแต่เดือนต.ค.ที่ผ่านมา ส่วนอนาคตก็จะมีการพิจารณาว่าถ่านหินที่ผลิตได้จะจำหน่ายในประเทศออสเตรเลียหรือส่งออกในสัดส่วนเท่าใด ซึ่งปัจจุบันพบว่าถ่านหินที่ผลิตได้ส่วนใหญ่ขายในประเทศถึง 2/3 ของกำลังการผลิต โดยสัญญาซื้อขายถ่านหินดังกล่าวจะทยอยสิ้นสุดลงในปี 55 หลังจากนั้นจะพิจารณาว่าต่อสัญญาซื้อขายถ่านหิน หรือจะทำตลาดส่งออกอย่างไร แต่จากค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นการผลิตแล้วขายถ่านหินในประเทศออสเตรเลียเองก็มีความเหมาะสมอยู่แล้ว
นางสมฤดี กล่าวว่า การซื้อกิจการ Centennial ครั้งนี้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจระยะยาวปี 58 ที่ตั้งเป้าหมายการมีสินทรัพย์ในธุรกิจเหมืองถ่านหินคิดเป็น 85%ของสินทรัพย์ทั้งหมด ที่เหลืออีก 15%จะเป็นโรงไฟฟ้าจากถ่านหิน ซึ่งเดิมบ้านปูมีสินทรัพย์ที่เป็นเหมืองถ่านหินอยู่ 60-65% แต่เมื่อซื้อกิจการ Centennial ทำให้สัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 70% ซึ่งปัจจุบันไม่มีนโยบายที่จะขายเหมืองถ่านหินหรือแม้แต่โรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินออกไปอีก
ส่วนแผนการลงทุนของกลุ่มบ้านปูระยะยาวถึงปี 58 ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนอยู่ที่ระดับ 460 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นการลงทุนในโรงไฟฟ้าหงสา 255 ล้านเหรียญสหรัฐ อีก 200 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นการลงทุนในธุรกิจเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย ซึ่งงบลงทุนดังกล่าวไม่ได้รวมการลงทุนซื้อหุ้น Centennial หรือซื้อเหมืองถ่านหินใหม่เพิ่มเติม