นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 54 เติบโตมากกว่า 20% ในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ บริษัทมองว่าธุรกิจหลักยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และ 1-2 ปีข้างหน้านี้บริษัทจะมุ่งให้ความสำคัญกับตลาดยุโรปมากขึ้น หลังจากบริษัทได้มีการเข้าไปซื้อกิจการของ MW Brand ซึ่งจะช่วยทำให้บริษัทสามารถขยายตลาดเข้าไปสู่ภูมิภาคยุโรปได้มากขึ้น และจะทำให้สัดส่วนรายได้จากตลาดยุโรปเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของรายได้รวม หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 33% จากปัจจุบันอยู่ที่ 11% ขณะที่สัดส่วนรายได้จากตลาดสหรัฐน่าจะลดลงเหลือ 38% ของรายได้รวม จากปัจจุบันอยู่ที่ 48%
ด้านบริษัท ไทยยูเนี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TUF ที่ได้เข้าไปลงทุนและจัดตั้งบริษัท ยูเอสเพ็ท นูทรีชั่น จำกัด ขึ้นในประเทศสหรัฐเพื่อประกอบกิจการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งแบบเปียกและแห้ง จะช่วยทำให้ฐานการผลิตอาหารสัตว์ของบริษัทเพิ่มขึ้น
นายธีรพงศ์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่ายอดขายอาหารแมวจะเพิ่มขึ้น 10% หลังจากโรงงานในประเทศสหรัฐเริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ได้ เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นช่วงไตรมาส 1/54 ซึ่งการที่ยอดขายอาหารแมวเติบโตขึ้นก็น่าจะช่วยทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารแมวเพิ่มขึ้นเป็น 11-12% ของรายได้รวม จากปัจจุบันอยู่ที่ 10%
สำหรับการบริหารจัดการเรื่องค่าเงินที่ผันผวน บริษัทสามารถบริหารจัดการได้ค่อนข้างดีเนื่องจากมีรายได้กระจายจากหลายแห่งทั้งในรูปของเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ จึงทำให้ความเสี่ยงเรื่องค่าเงินลดลง
“ค่าเงินคงกระทบในระยะสั้น มีผลกระทบช่วงสั้น แต่ในแง่พื้นฐานธุรกิจคงไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเราก็จะมีการปรับราคาขายให้เข้ากับค่าเงิน"นายธีรพงศ์ กล่าว