KBANK คาดปีหน้าเอกชนออกหุ้นกู้ 3 แสนลบ.หวังส่วนแบ่ง 20% จาก 15% ปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 7, 2010 12:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย(KBANK)คาดว่าปริมาณการออกหุ้นกู้เอกชนในปี 54 จะเพิ่มขึ้นเป็น 3 แสนล้านบาท โดยในจำนวนดังกล่าวธนาคารคาดว่าจะมีส่วนแบ่งในตลาดการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ประมาณ 20% หรือคิดเป็นมูลค่า 60,000 ล้านบาท

ส่วนในปี 53 ภาคธุรกิจมีการระดมทุนผ่านตลาดทุน โดยการออกหุ้นกู้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า ณ สิ้นปีจะมีมูลค่ารวมประมาณ 2.6 แสนล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้มีธนาคารทำหน้าที่เป็นผู้จัดจำหน่ายประมาณ 40,561 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งประมาณ 15%

นายธิติ คาดปี 54 ภาวะเศรษฐกิจโลกและไทยมีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ภาวะเงินบาทมีแนวโน้มจะแข็งค่าต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทเอกชนที่มีศักยภาพหลายรายตัดสินใจลงทุนเพื่อขยายธุรกิจโดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ จึงคาดว่าภาคธุรกิจจะมีการระดมทุนผ่านตลาดทุนซึ่งโดยทั่วไปมีต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำ และทำให้ตลาดทุนของไทยในปี 54 มีความคึกคักมากขึ้น

ด้านการค้าตราสารหนี้ในตลาดรองปีหน้าจะได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนช่องทางอื่นมากขึ้น ดังนั้นคาดว่าการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดรองปีหน้าจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 3.15 ล้านล้านบาท โดยธนาคารตั้งเป้าคงความเป็นผู้นำในการตลาดนี้ ด้วยมูลค่าการซื้อขายประมาณ 4.7 แสนล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 15%

สำหรับทิศทางการปล่อยสินเชื่อร่วม (Syndicated Loans) ในปีหน้าคาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโครงการใหญ่ต่าง ๆ โดยมูลค่าสินเชื่อร่วมทั้งระบบน่าจะอยู่ประมาณ 2.1 แสนล้านบาท ซึ่งธนาคารกสิกรไทยเชื่อว่า ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการด้านการปล่อยสินเชื่อร่วม ธนาคารฯ จะยังคงเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในการจัดการปล่อยสินเชื่อร่วม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8.4 หมื่นล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 40%

ทั้งนี้ การปล่อยสินเชื่อของธนาคาร จะเน้นการให้สินเชื่อโครงการ (Project Finance) แก่โครงการลงทุนคุณภาพในธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์เป็นหลัก โดยเฉพาะในธุรกิจพลังงานไฟฟ้า คาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 250,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าอิสระ (IPP: Independent Power Producer) โครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP: Small Power Producer) และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก (Renewable Energy Project) ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จะขายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

"เป้าหมายของธนาคารกสิกรไทยในปี 54 ยังคงเป็นการรักษาความเป็นผู้นำธุรกิจตลาดทุนไทย โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ซึ่งต้องใช้วงเงินสินเชื่อร่วม คาดว่าจะยังคงมีอย่างต่อเนื่อง การจัดจำหน่ายหุ้นกู้ การค้าตราสารหนี้ในตลาดรอง การเสนอขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอย่างครบวงจรทั้งธุรกรรมตราสารหนี้ ตราสารทุน และธุรกรรมที่มีความซับซ้อน ซึ่งธนาคารกสิกรไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ให้บริการเพื่อการลงทุนทางธุรกิจที่ครบวงจรที่สุด" นายธิติ กล่าว

ในปี 53 ธนาคารยังมีบทบาทในการเป็นผู้นำด้านด้านการค้าขายตราสารหนี้ในตลาดรองซึ่งมีปริมาณการซื้อขายที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 53 คาดว่าจะมีปริมาณซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดรองมากกว่า 3.5 ล้านล้านบาท ซึ่งธนาคารกสิกรไทย นับเป็นผู้ค้ารายใหญ่ในตลาดรองโดยมีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 5.1 แสนล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 14.5%

ส่วนภาพรวมการปล่อยสินเชื่อร่วม (Syndicated Loans) พบว่ามีการขยายตัวจากปี 52 กว่า 2.5 เท่า โดยในปี 53 คาดว่าจะมีมูลค่าการปล่อยสินเชื่อร่วมของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ รวมทั้งสิ้นประมาณ 1.65 แสนล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ ธนาคารกสิกรไทยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการสินเชื่อร่วม (Loans Mandated Arranger) อันดับหนึ่ง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 6.5 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 39% ของมูลค่าสินเชื่อร่วมทั้งหมดในระบบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ