นายวิเชียร เมตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)กล่าวว่า ตามที่มีผลสรุปของการพิจารณาของคณะกรรมการมาตรา 22 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ กรณีที่จะมีการเพิกถอนการแก้ไขสัญญาสัมปทานของ ADVANC ที่ได้มีการปรับลดส่วนแบ่งรายได้เหลือ 20% โดยจะให้ไปจ่ายในอัตรา 30% ตามเดิมนั้น บริษัทยังไม่ได้รับแจ้งจากทางการแต่อย่างใด และบริษัทจะหารือกับ บมจ.ทีโอที ซึ่งเป็นคู่สัญญาเท่านั้น หากทีโอทีจะดำเนินการตามผลสรุปของคณะกรรมการมาตรา 22 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ บริษัทก็พร้อมจะขอตั้งอนุญาโตตุลาการเพื่อชี้ขาด
"เราไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างก็เป็นไปตามสัญญา แน่นอนอยู่แล้วจะมีขอตั้งอนุญาโตฯเพราะเป็นข้อขัดแย้งกัน เพราะว่าเราได้เซ็นสัญญากับทีโอทีไปแล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะแยะ จนกระทั่งวันนี้ทีโอทีทำ 3G ก็เพราะมีการแก้ไขสัญญา ซึ่งแต่เดิมเขาแข่งกับเอกชนไม่ได้ เราก็ยอมให้ทำโดยแลกเปลี่ยนบางอย่าง เพราะฉะนั้นถ้าจะเลิกก็ต้องเลิกทั้งหมด เพราะทำผิดทั้งหมด"นายวิเชียร กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตุระยะหลังบริษัทจ่ายเงินปันผลพิเศษมาตลอดเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเทมาเสค ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น(SHIN)ที่ถือหุ้นใหญ่ใน ADVANC สัดส่วน 42.56% นั้น นายวิเชียร กล่าวว่า เหตุที่บริษัทมีการจ่ายปันผลพิเศษ นอกเหนือจากการจ่ายเงินปันผลประจำปี 6.30 บาท/หุ้น เพราะมีเงินสดในมืออยู่จำนวนมาก แม้ว่าจ่ายเงินปันผลไปแล้วก็ยังมีอยู่มากเป็นระดับหมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันก็เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยทำให้ราคาหุ้นในกระดานไม่ตกต่ำมาก โดยราคามีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ดี หากบริษัทไม่ได้การันตีว่าจะต้องจ่ายเงินปันผลทุกปี 6.30 บาท/หุ้น และมีการจ่ายปันผลพิเศษ เพราะขึ้นกับผลกำไรของบริษัทในแต่ละปีด้วย
นายวิเชียร คาดว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือในปีหน้ายังคงมีการแข่งขันต่อเนื่อง การเติบโตก็คงไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นการเติบโตในด้านบริการ Non-Voice มากกว่า โดยปีนี้คาดว่าทั้งอุตสาหกรรมเติบโต 5-7% ส่วนปีหน้าขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งในช่วงปลายเดือน ธ.ค.นี้บริษัทจะประเมินภาพรวม และแผนงานในปีหน้า