โบรกฯหนุน"ซื้อ"CK คาดปี 54 พลิกกำไรจากขาดทุนปีนี้หลังได้ 2โครงการยักษ์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 7, 2010 15:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ต่างแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ช.การช่าง(CK)คาดปี 54 พลิกมีกำไรได้แน่นอนและเติบโตมาก เนื่องจากปีนี้ยังคงมีผลประกอบการขาดทุน แม้ว่าไตรมาส 4/53 จะมีกำไรต่อเนื่องจากไตรมาส 3/53 แต่เชื่อว่าจะไม่สามารถชดเชยผลขาดทุนทั้ง 9 เดือนแรกได้

ทั้งนี้ รายได้ในปีหน้าน่าจะเติบโตสูงเป็น 1.6 หมื่นล้านบาท จาก 6.4 พันล้านบาทในปีนี้ โดยรายได้หลักมาจากโครงการไซยะบุรีในสปป.ลาว รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ)และสายสีน้ำเงิน(สนามไชย-ท่าพระ)

นอกจากนี้ ราคาหุ้นยังค่อนข้างถูก หลังราคาตกไปช่วงเดือนก่อนที่มีข่าวเลื่อนการเซ็นสัญญาโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน จึงเห็นว่า Sentiment ช่วงนี้หนุนให้ราคาหุ้น CK ปรับตัวสูงขึ้นได้

          โบรกเกอร์         คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.เคจีไอ           ซื้อ               13.16
          บล.ยูไนเต็ด          ซื้อ               12.90
          บล.กิมเอ็ง           ซื้อ               12.80
          บล.บัวหลวง          ซื้อ               12.50
          บล.กสิกรไทย         ซื้อ               12.50
          บล.โกลเบล็ก         ซื้อ               12.15
          บล.เกียรตินาคิน       ซื้อ               11.85
          บล.เอซียพลัส         ซื้อ               11.71
          บล.กรุงศรีอยุธยา      เก็งกำไร          11.10

นายชาตรี ศรีสมัยเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า CK ในปีหน้าจะมีรายได้และกำไรเติบโตอย่างมาก จาก 2 งานใหญ่เป็นหลัก ได้แก่ โครงการก่อสร้างสายสีน้ำเงิน(สนามไชย-ท่าพระ)ที่ใกล้เซ็นสัญญาภายในเดือน ธ.ค.นี้ และโครงการไซยะบุรี ที่ผู้บริหาร CK มั่นใจจะเซ็นสัญญาก่อสร้างได้ภายในไตรมาสแรกปี 54 จึงได้ปรับคำแนะนำจาก"ขาย"เป็น"เก็งกำไร"

"เราแนะนำให้ Trading เพราะกลุ่มรับเหมาเล่นตามข่าวเยอะมาก ไม่อยากแนะให้"ซื้อ"หรือ"ซื้อลงทุน"เพราะหุ้นกลุ่มนี้สวิงมาก"นายชาตรี กล่าว

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4/53 จะไม่ช่วยให้ผลประกอบการทั้งปี 53 ให้พลิกกลับมาเป็นกำไรได้ แต่คาดการณ์การพลิกฟื้นกลับมาเป็นกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญจะเกิดขึ้นในปี 54

ส่วนนักวิเคราะห์จาก บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)คาดว่า ในปีหน้า CK จะมีรายได้ 1.6 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่คาดรายได้ 6,400 ล้านบาท และเชื่อว่าจะกลับมีกำไรแน่นอน คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 920 ล้านบาท จากปี 53 ที่น่าจะขาดทุน 100 ล้านบาท โดยโครงการไซยะบุรีจะสร้างรายได้ราว 57% ของรายได้รวมในปี 54 ส่วนโครงการสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง สัดส่วน 18% และ 19% ตามลำดับ

CK ยังคงเป้าอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 10-15% โดยโครงการไซยบุรีและการก่อสร้างรถไฟฟ้าคาดจะสร้างอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 10-15% จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของปี 54 ปรับเพิ่มเป็น 9.7% จากติดลบ 3.3% ในปี 53

"ปีหน้าการเติบโตทั้งกำไรและรายได้ชัดเจน ราคาหุ้นค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกัน และ Sentiment ยังดี ซึ่งก็จะมีการเซ็นสัญญาสายสีน้ำเงิน และ 13-14 ธ.ค.ก็จะมีการเปิดขายซองสายสีแดง"นักวิเคราะห์ กล่าว

บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุว่า เราได้ปรับเพิ่มเป้าหมาย PBV ของเราเป็น 3.0 เท่า(+1.5 SD)จากเดิมที่ 2.7 เท่า(+1.0 SD)เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มกำไรที่มีความชัดเจนมากขึ้นหลังจากที่โครงการเขื่อนไซยะบุรีมูลค่า 76,000 ล้านบาทใกล้จะเซ็นสัญญาแล้ว ดังนั้นราคาเป้าหมายปี 54 ของเราได้ปรับขึ้นจาก 11.40 บาทเป็น 12.50 บาท

ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากการเพิ่มทุนและยังมีข้อสงสัยต่อความสามารถในการทำกำไรจากโครงการดังกล่าวในระยะยาว แต่เราเชื่อว่าการเซ็นสัญญาโครงการไซยะบุรีและการประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีแดงจะช่วยสร้างความรู้สึกเชิงบวกต่อราคาหุ้นต่อ CK ใน 2 เดือนข้างหน้า เมื่อรวมกับโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับเพิ่มขึ้นได้อีก 29% ไปถึงราคาเป้าหมายของเรา


แท็ก ช.การช่าง   (CK)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ