นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นต่อไปได้ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะแกว่งในแดนบวกเล็กน้อย เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ได้มีปัจจัยลบ อีกทั้ง Fund Flow ก็ยังคงไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
นอกจากนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์(Commodity)ก็ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ยังยืนได้เหนือระดับ 88 เหรียญฯ/บาร์เรล ส่วนเรื่องปัญหาหนี้ในแถบยุโรปก็ยังคงต้องเกาะติดต่อไป และควรจะติดตามสถานการณ์ในจีนด้วย
ทั้งนี้ ตลาดฯมีโอกาสวิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,050 จุดได้ ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,020 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(7 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,359.16 จุด ลดลง 3.03 จุด(-0.03%)เอส
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,031.71 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 88.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.69 ดอลลาร์
- เอดีบี แนะประเทศเอเชียผนึกค่าเงินรับมือกระแสเงินทุนไหลเข้า พร้อมเตือนเอเชียตะวันออกจะขยายตัวช้าลงในปีหน้า ผลจากการฟื้นตัวที่ไม่แน่นอนของสหรัฐ ด้านแบงก์ชาติระบุเงินบาทเริ่มทรงตัวหลังจากทุนไหลเข้าเริ่มน้อยลง ชี้ไร้ปัจจัยใหม่มาดึงดูด เชื่อสถานการณ์ยุโรปไม่ลุกลาม"อำพล"มั่นใจปีหน้าค่าเงินไม่ถึง 28 บาทต่อดอลลาร์
- รัฐอัดฉีดสินเชื่อ 5 พันล้านบาทเร่งปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ ภายใน 3-6 เดือน เน้นกลุ่ม "แท็กซี่-มอเตอร์ไซค์รับจ้าง-แม่ค้าหาบเร่" เตรียมประกาศแพ็คเกจ 17 ธ.ค.นี้ พร้อมกำหนด 4 แนวทางดึงแรงงานนอกระบบ 24 ล้านคนเข้าสู่ประกันสังคม
- รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังนายกรัฐมนตรีสั่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงพลังงาน ดูแลค่าครองชีพ โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลที่รัฐบาลกำหนดหากราคาสูงกว่าลิตรละ 30 บาทรัฐบาลจะเข้าไปจัดการว่าในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) วันที่ 8 ธ.ค.จะมีการพิจารณาแนวทางลดผลกระทบผู้ใช้น้ำมัน โดยจะเสนอการปรับลดอัตราจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซล เนื่องจากดีเซลกระทบค่าครองชีพและภาพรวมเศรษฐกิจมาก
- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เผยมาตรการตรึงราคาสินค้าออกไปอีก 3 เดือนของรัฐบาล หลังหมดมาตรการตรึงราคาเดิมถึงสิ้นปีนี้ จำเป็นต้องดูความเหมาะสมด้วย เพราะหากควบคุมราคาไว้นานเกินไปผู้ประกอบการจะขาดทุน จึงควรพิจารณาเป็นรายสินค้าโดยควบคุมเฉพาะสินค้าที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง
- กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์)เผยธนาคารจะคงดอกเบี้ยอัตราเงินกู้ไว้ในอัตราเท่าเดิมจะไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นจนถึงสิ้นไตรมาสแรกปีหน้า เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบการรายเล็ก แม้ว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดจะปรับตัวสูงขึ้น ตามการขึ้นดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)จาก 1.75% ต่อปี เป็น 2%