รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์"ว่า ขณะนี้กรมธนารักษ์ ได้ส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาข้อสัญญาในโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุ บริเวณโรงภาษีร้อยชักสาม หรือโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ของ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค(N-PARK)ว่าแต่ละฝ่ายมีการดำเนินการที่ผิดสัญญาใดบ้าง หลังจากพบว่าการดำเนินการโครงการมีความล่าช้า และกรมธนารักษ์ได้ส่งหนังสือเร่งรัดไปยังบริษัทแล้ว แต่ยังไม่มีการตอบกลับใดๆ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทยังไม่สามารถดำเนินการตามสัญญา โดยตามข้อสัญญาต้องมีการสร้างอาคารชดเชยให้แล้วเสร็จเพื่อให้หน่วยงานของทางตำรวจย้ายออก แต่พบว่ามีการตอกเสาเข็มไปแค่ 5% เท่านั้น และบริษัทยังอ้างว่าทางดับเพลิงของ กทม.ไม่ย้ายออก ซึ่งกลายเป็นปัญหาพันกันเป็นลูกโซ่ และยังอ้างอีกว่าสถาบันการเงินยังไม่ปล่อยสินเชื่อให้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ถือว่าโครงการได้พ้นกำหนดตามสัญญาแล้วตั้งแต่ปี 52 ซึ่งตามสัญญาต้องดำเนินการก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี นับจากวันปักผัง และยังพบว่าบริษัทยังไม่ได้ชำระค่าเช่ารายปีให้กรมธนารักษ์ในปี 53 จำนวน 3.3 ล้านบาท
"ภายใน 2 ปีต้องก่อสร้างให้เสร็จ ซึ่งปัญหาที่ทำให้ล่าช้ามีตั้งแต่การได้รับอนุญาต ความล่าช้าจาก กทม.การสร้างอาคารชดเชย จากตำรวจ แบบที่อนุญาตให้ปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำ การแก้ไขแบบ ก็มีอยู่ แต่เมื่อทุกฝ่ายได้ข้อยุติแล้วถึงจะเริ่มปักผัง ให้เริ่มสัญญา 2 ปี นับจากวันปักผัง ไม่ได้นับจากวันลงนามสัญญาก่อสร้าง เพราะมีปัจจัยแวดล้อมให้การก่อสร้างล่าช้า ไม่ได้ทำได้ทันที แต่ทั้งหมดก็ครบตั้งแต่ปีที่แล้ว" แหล่งข่าว กล่าว
หลังจากกรมธนารักษ์ส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาแล้ว จะเสนอเรื่องให้อธิบดีกรมธนารักษ์ และเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการประสานงาน ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ต่อไป หากมีการยกเลิกสัญญา ทางกรมจะยึดหลักประกันตามสัญญา และฟ้องร้องเรียกเก็บค่าเช่าที่ค้างอยู่ให้ครบ ซึ่งดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย และจะเปิดประมูลใหม่หาผู้บริหารพื้นที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าวใหม่
"ยกเลิกสัญญาหรือไม่ยังไม่ทราบผล แต่หน้าที่ตามสัญญาแต่ละฝ่ายมีหน้าที่อะไร ฝ่ายไหนผิดสัญญาต้องพิจารณา ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ ขึ้นอยู่กับว่าคู่สัญญาแต่ละฝ่ายทำตามสัญญาผูกพันหรือไม่"แหล่งข่าว กล่าว