นายศรัณย์ สมุทรโคจร กรรมการบริหาร บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด ในเครือ บมจ.ล็อกซเล่ย์(LOXLEY) กล่าวว่า เป้าหมายแรกของธุรกิจอาหารในเครือของล็อกซเล่ย์นั้นจะเป็นการรุกเข้าสู่ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น เนื่องจากอาหารญี่ปุ่นมีความหลากหลายและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทย ดังนั้นจึงเป็นตลาดที่มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตสูง
การเข้าสู่ตลาดอาหารญี่ปุ่นของล็อกซเล่ย์นั้นจะเป็นการนำเสนอความหลากหลายผ่านแบรนด์ต่างๆ ที่มีรูปแบบอาหารที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยวันนี้ได้ลงนามในสัญญามาสเตอร์แฟรนไชส์และเปิดตัวแบรนด์ 2 แบรนด์ ได้แก่ แบรนด์โดทงโบริ ซึ่งเป็นร้านอาหารประเภทเทปปันยากิ และ โอโคโนมิยากิ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ด้วยจำนวนสาขากว่า 300 สาขา รวมไปถึงแบรนด์เท็ทสึเมน ราเม็ง ซึ่งเป็นร้านราเมงต้นตำหรับจากกรุงโตเกียว ด้วยจำนวนสาขากว่า 20 สาขาในกรุงโตเกียว
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจะใช้งบประมาณในการลงทุนเบื้องต้นประมาณ 100 ล้านบาท ตั้งเป้าเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบด้วยร้านแฟลกชิพขนาดใหญ่ที่รวมทุกแบรนด์ภายใต้ล็อกซเล่ย์ไว้ด้วยกัน มีกำหนดการเปิดแฟลกชิพแรกที่โครงการ เดอะ ไนน์ บนถนนพระราม 9 ตัดใหม่ในเดือน พ.ค.และแฟลกชิพแห่งที่สองที่โครงการเทอร์มินัล 21 บนถนนสุขุมวิทในเดือน ก.ย.54
สำหรับแผนการในอนาคต การเติบโตหลักจะมาจากการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ โดยจะเริ่มต้นในปี 55 และมีแผนการเปิดสาขาโดยเฉลี่ยปีละ 18-20 สาขา ซึ่งได้ตั้งเป้าไว้ที่จำนวน 180 สาขาภายในปี 63
“บริษัทฯยังคงเดินหน้าศึกษาหาโอกาสและช่องทางในการดำเนินการธุรกิจอาหารและบริการในรูปแบบอื่นๆ ด้วยความพร้อมและศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มที่ของล็อกซเล่ย์ต่อไป" นายศรัณย์ กล่าว