ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ฉุดราคาหุ้นเหมืองแร่ร่วงลง อย่างไรก็ตาม ดัชนีปรับตัวลงไม่มากนักเพราะตลาดได้แรงหนุนจากดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากรัฐบาลสหรัฐตกลงขยายโครงการลดหย่อนภาษี รวมทั้งกระแสข่าวควบรวมกิจการในภาคเอกชน
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 13.92 จุด หรือ 0.24% แตะที่ 5,794.53 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,774.28 - 5,826.59 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยหุ้นเฟรสนิลโล แอนด์ แรนด์โกลด์ รีซอสเซส ปิดร่วง 4.9% และหุ้นคาซัคมิสปิดร่วง 2%
หุ้นสมิธ แอนด์ เนฟิว ปิดบวก 9.1% หลังจากหนังสือพิมพ์เดอะเดลี่ เมล์ รายงานว่า กลุ่มอิควิตี้ฟันด์ของสหรัฐอาจเสนอซื้อหุ้นของสมิธ แอนด์ เนฟิว มูลค่า 800 เพนซ์ต่อหุ้น ขณะที่หุ้บเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของอังกฤษ ปิดบวก 2.3% หลังจากมีการคาดการณ์ว่า พีพีอาร์ เอสเอ บริษัทฝรั่งเศสซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ดังอย่างกุชชี่และพูม่า อาจเสนอซื้อหุ้นของเบอร์เบอร์รี่
หุ้นพรูเดนเชียลปิดพุ่ง 3.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอส เอจี ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นพรูเดนเชียล นอกจากนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ยังปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ "มีเสถียรภาพ"